วันที่ 8 ตุลาคม 2568 นางสาวอารีรัตน์ มุราชัย หัวหน้านักวิเคราะห์ บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD เปิดเผยว่า ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นแรงทะลุระดับ 3,900 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ ท่ามกลางกระแสคาดหวังว่านักลงทุนจะยังคงหันมาถือครองสินทรัพย์ปลอดภัยต่อเนื่อง โดยมีโอกาสที่ราคาจะสามารถยืนเหนือระดับ 4,000 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ได้ ซึ่งได้รับแรงหนุนจากภาวะดอกเบี้ยขาลง เงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับสูง และการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ

นอกจากนี้ กองทุนแอลทีเอฟและธนาคารกลางหลายประเทศมีการเพิ่มการสะสมทองคำ ส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นต่อเนื่องและทำสถิติสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยราคาทองคำ ณ วันที่ 8 ตุลาคม อยู่ที่ราคาทองคำแท่ง รับซื้อ 62,250 บาทต่อบาททองคำ ขายออก 62,350 บาทต่อบาททองคำ ส่วนทองรูปพรรณ รับซื้อ 61,003.84 บาทต่อบาททองคำ ขายออก 63,150 บาทต่อบาททองคำ
ขณะที่ทองคำสปอตอยู่ที่ 4,049.50 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ และอัตราค่าเงินบาทอยู่ที่ 32.54 บาทต่อเหรียญสหรัฐ โดยตลอดทั้งวันมีการปรับเปลี่ยนราคามากกว่า 33 ครั้ง เป็นการปรับขึ้นพรวดเดียวถึง 500 บาท ก่อนจะมีการผันผวนขึ้นลง รวมแล้วราคาปรับเพิ่มขึ้น 1,400 บาทภายในวันเดียว
จากการที่มีแรงซื้อจากภาคเอกชน โดยเฉพาะกองทุนแอลทีเอฟ กลายเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ โดยช่วงเดือนกันยายน ที่ผ่านมามีการเพิ่มการถือครองทองคำกว่า 100 ตัน ซึ่งสูงที่สุดในรอบกว่า 3 ปี ประกอบกับธนาคารกลางหลายประเทศยังคงเดินหน้าสะสมทองคำเพื่อกระจายความเสี่ยงของทุนสำรองระหว่างประเทศ ขณะที่ประเทศจีนยังคงเดินหน้าเร่งผลักดันบทบาทของเงินหยวนและสร้างเครือข่ายการจัดเก็บทองคำในภูมิภาคเอเชีย เพื่อตอกย้ำสถานะของตัวเองในตลาดโลก
นางสาวอารีรัตน์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของกลยุทธ์การลงทุน ฝ่ายวิเคราะห์ประเมินว่าในระยะสั้นสัปดาห์นี้ควรจับตาสถานการณ์การชัตดาวน์ของรัฐบาลสหรัฐ หากการปิดทำการยืดเยื้อจะเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำ แต่หากมีข้อตกลงเปิดทำการขึ้นมาใหม่ อาจเกิดแรงขายทำกำไรระยะสั้น ทั้งนี้ หากราคาทองคำมีการย่อตัวแต่ยังยืนเหนือระดับ 3,800 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ได้ ยังมองว่าเป็นเพียงการย่อระยะสั้นเพื่อปรับตัวขึ้นต่อ และเป็นแนวรับสำหรับการเข้าซื้อได้ในจังหวะนี้