จากกรณี น้องมีน ชายชาวนครศรีธรรมราช อายุ 24 ปี เสียชีวิตข้างถนนที่กัมพูชา หลังมีอาการปวดท้องและแน่นหน้าอก โดยก่อนหน้านี้มีรายงานอ้างว่า เขาถูกทางกัมพูชาปฏิเสธการรักษา แต่จากการตรวจสอบประวัติพบว่า น้องมีน มีคดีเกี่ยวกับฉ้อโกงและ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ติดตัวอยู่
ทางพ่อแม่ยืนยันว่า น้องมีน ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของแก๊งคอลเซนเตอร์ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าอาจถูกทำร้ายจนเสียชีวิต เนื่องจากเงินสดและพาสปอร์ตหายไป นอกจากนี้ยังมีหญิงนิรนามผ่านอินสตาแกรมของลูกชาย ติดต่อขอเงินค่าที่พักและค่าเดินทาง จึงสร้างความเคลือบแคลงใจให้พ่อแม่อย่างมาก และสงสัยว่าหญิงคนดังกล่าวอาจอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้
ล่าสุด วันที่ 8 ตุลาคม 2568 น้องเปา อายุ 27 ปี กู้ภัยปอยเปต ลูกครึ่งไทย-กัมพูชา พยายามติดต่อเพื่อชี้แจงอีกด้านของเรื่อง โดยระบุว่า ตนเคยเห็น น้องมีน เป็นคนเร่ร่อนอยู่ในปอยเปตนานกว่า 5 เดือนแล้ว เนื่องจากทำงานกู้ภัยมักเจอคนไทยเสียชีวิตในพื้นที่ ส่วนใหญ่เสียชีวิตจากการถูกขังหรือทรมานจากการทำงานคอลเซนเตอร์
น้องเปา ยืนยันว่า ทางกัมพูชาไม่ได้ปฏิเสธการรักษา และที่ผ่านมาโรงพยาบาลรับรักษาคนไทยตามปกติ โดยผู้เสียชีวิตเคยเข้ารับการรักษามาแล้ว 1 ครั้ง แต่ไม่ทราบอาการเจ็บป่วยแน่ชัด คาดว่าอาจเกี่ยวกับโรคอ้วนหรือเบาหวาน
เมื่อถามถึงอดีตของผู้เสียชีวิต ก่อนมาเป็นคนเร่ร่อน น้องเปา ระบุว่า ผู้เสียชีวิตไม่เคยทำงานเชฟ ก่อนหน้านี้เขาเคยเข้ามาใช้ชีวิตและทำงานที่ปอยเปตประมาณ 1 ปี อยู่ที่ กู๊ดเวิลด์ ใกล้ตึก 18 ชั้น เปิดบัญชีทำมาหากินโดยเป็นสแกมเมอร์ หลอกคนเพียง 7 วัน ก็ถูกยึดเอกสารสำคัญ จนต้องออกมาใช้ชีวิตข้างนอก ติดการพนัน เล่นกาสิโนและสล็อตจนหมดตัว จนกลายเป็นคนเร่ร่อน
น้องเปา ระบุว่า ช่วงเช้าวานนี้ยังมีคนกัมพูชาติดต่อให้ตนไปรับดูที่เกิดเหตุ แต่เมื่อไปถึงพบว่า น้องมีน เสียชีวิตแล้ว จึงไม่เกี่ยวกับเรื่องการปฏิเสธรักษาที่โรงพยาบาล ทางโรงพยาบาลยินดีช่วยเหลือ แต่ไปถึงก็สายเกินไป
นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่าผู้เสียชีวิตพยายามกลับไทยและขอให้กัมพูชาเปิดด่าน แต่ผู้เสียชีวิตปฏิเสธการกลับ เพราะกลัวติดคดีที่มีอยู่
น้องเปา ทิ้งท้ายว่า เรื่องนี้ไม่อยากให้โยงกับปัญหาของสองประเทศ แต่เป็นเรื่องความเป็นอยู่ของคนไทยในปอยเปต พวกเขาอยู่ลำบาก ต้องช่วยเหลือกัน แต่ผู้เสียชีวิตเลือกใช้ชีวิตเร่ร่อนเอง เล่นยาจนสติหลอน และเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ซึ่งยังมีเคสลักษณะคล้ายกันอีกมาก