เร่งอพยพผู้ป่วย! พนังกั้นน้ำพิจิตรแตกแล้ว น้ำทะลักเข้าโรงพยาบาลต่อเนื่อง.!!

วันที่ 6 ตุลาคม 2568 นางสาวธนียา นัยพินิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร พร้อมด้วยนายกิตติพล เวชกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร และนายรณรงค์ สิทธิเขตกรณ์ ปลัดจังหวัดพิจิตร เดินทางตรวจพื้นที่โรงพยาบาลสมเด็จยุพราชตะพานหิน อำเภอตะพานหิน จังหวัดพิจิตร หลังได้รับรายงานว่าโรงพยาบาลได้รับผลกระทบจากมวลน้ำที่ระบายจากเขื่อนสิริกิติ์และเขื่อนแควน้อยบำรุงแดนลงสู่แม่น้ำน่าน ส่งผลให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำน่านเพิ่มสูงเกินความจุ ล้นทะลักพนังกั้นน้ำหมู่ที่ 5 ตำบลงิ้วราย แตกพังทลาย

มวลน้ำจำนวนมากไหลเข้าท่วมบริเวณด้านข้างรั้วโรงพยาบาลสมเด็จยุพราชตะพานหิน ประกอบกับน้ำป่าจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ทางอำเภอทับคล้อไหลหนุน ทำให้กำแพงพนังกั้นน้ำของโรงพยาบาลแตกพังอย่างรวดเร็ว น้ำไหลเข้าท่วมบริเวณหน้าอาคารผู้ป่วยนอกและอาคารอุบัติเหตุฉุกเฉิน ขณะเกิดเหตุแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่กำลังให้บริการผู้ป่วย ต้องเร่งอพยพผู้ป่วยนอกขึ้นอาคารสูงและบางส่วนออกไปยังริมถนนสายตะพานหิน–เขาทราย ท่ามกลางความโกลาหล

นายวิศิษฎ์ อภิสิทธิ์วิทยา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพิจิตร เปิดเผยว่า สาเหตุเกิดจากน้ำจากแม่น้ำน่านและน้ำทุ่งไหลกระแทกรั้วโรงพยาบาลจนพังทะลาย ทำให้น้ำทะลักเข้าพื้นที่ด้านหน้าอาคาร โดยได้ระดมเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ตำรวจภูธรตะพานหิน เทศบาลเมืองตะพานหิน และอาสาสมัครรวมกว่า 100 นาย เร่งวางกระสอบทรายป้องกันน้ำเพิ่มเติม และจัดทำทางเดินชั่วคราว รวมถึงช่วยเคลื่อนย้ายผู้ป่วยที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ไปยังจุดปลอดภัย

ขณะนี้โรงพยาบาลงดรับผู้ป่วยส่งต่อจากโรงพยาบาลอื่นชั่วคราว และให้ส่งต่อไปยังโรงพยาบาลพิจิตรแทน ส่วนผู้ป่วยในจำนวน 90 เตียง ยังสามารถรักษาได้ภายในอาคารชั้น 2-3 ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบ พร้อมจัดตั้งจุดบริการแพทย์เคลื่อนที่และเต็นท์รักษาฉุกเฉินริมถนนหน้าโรงพยาบาล

ด้านนายกิตติพล เวชกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร พร้อมด้วยหัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพิจิตร และปลัดอำเภอตะพานหิน ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ ระบุว่า โรงพยาบาลได้รับน้ำจากสองทาง ทั้งจากแม่น้ำน่านทางตำบลงิ้วราย และจากทิศตะวันออกฝั่งอำเภอทับคล้อ ที่ไหลมารวมกันบริเวณโรงพยาบาลซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำ

ขณะนี้ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ 3 เครื่อง เพื่อเร่งระบายน้ำออกผ่านระบบท่อไปยังปลายน้ำธรรมชาติ พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ดูแลอำนวยความสะดวกประชาชนที่มารับบริการ โดยเฉพาะผู้ป่วยนอกที่ต้องใช้รถเข็นหรืออุปกรณ์พยุงตัว ทั้งนี้ หากระบบสูบน้ำทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ คาดว่าจะสามารถลดระดับน้ำภายในโรงพยาบาลได้ในระยะเวลาอันใกล้

ทั้งนี้ โรงพยาบาลสมเด็จยุพราชตะพานหินเคยประสบเหตุน้ำท่วมลักษณะเดียวกันมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปี 2554

Scroll to Top