นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) มอบหมายนายภัทรพล อุดมศักดิ์สะนะเขต ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำ จังหวัดหนองคาย ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี จับกุมและแจ้งข้อกล่าวหา นายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค อดีตหัวหน้าพรรคไทรักธรรม ณ ด่านตรวจคนเข้าเมือง จังหวัดหนองคาย
โดยนายพีระวิทย์ ได้หลบหนีไปอยู่ สปป.ลาว เนื่องจากร่วมกับพวกกระทำการทุจริตเงินอุดหนุนของกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง จึงตกเป็นผู้ต้องหาในความผิดคดีอาญา ตามหมายจับศาลจังหวัดสระบุรี ที่ จ. 117/2566 ลงวันที่ 16 มิถุนายน 2566 ฐานเป็นหัวหน้าพรรคไทรักธรรมนำ หรือยินยอมให้บุคคลอื่นนำเงินหรือทรัพย์สินของพรรคการเมืองไปใช้จ่ายเพื่อประโยชน์ส่วนตัว หรือบุคคลอื่นหรือนำไปใช้เพื่อการอื่นใดโดยมีระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5 – 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 100,000 – 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 132 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธธธรมนูญ ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560
อนึ่ง พรรคไทรักธรรมใช้จ่ายเงินอุดหนุนที่ได้รับจากกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมืองไม่เป็นไปตามกฎหมายและหลักเกณฑ์ที่กำหนด และได้รายงานการใช้จ่ายเท็จทั้งหมดหรือบางส่วน โดยมีจำนวนทุนทรัพย์ 18,797,824.59 บาท
ในการจับกุมดังกล่าว สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ได้ประสานความร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจถูภูธรภาค 1 ตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี และตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดหนองคาย สืบเนื่องมาจากการหารือร่วมกันระหว่าง ผู้แทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้ร่วมกันวางแผนจนนำมาสู่การจับกุมตัวได้ในที่สุด
ทั้งนี้ กองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง ได้จัดสรรเงินอุดหนุนให้แก่พรรคการเมืองทุกปี เพื่อนำไปใช้ในการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองตามมาตรา 84 ประกอบมาตรา 23 แห่งพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ซึ่งพรรคการเมืองมีหน้าที่ต้องดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย หากพรรคการเมืองไม่ดำเนินการตามกฎหมาย จะถูกดำเนินคดีอย่างเคร่งครัด
