หมอเผยเมล็ดชนิดนี้คือ. “ราชาล้างพิษตับ” แบบธรรมชาติ คนไทยรู้จักดี ราคาถูกมาก..!!

แพทย์เผย “ราชาแห่งเมล็ดถั่วล้างพิษตามธรรมชาติ” สำหรับตับ คนไทยคุ้นเคยดี และราคาถูกมาก

แม้จะเป็นของพื้นบ้าน แต่เมล็ดถั่วตัวจิ๋วนี้อุดมไปด้วยสารอาหารและดีต่อสุขภาพตับมาก ชาวไทยกินมานานแล้ว แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะรู้วิธีทานให้ตับแข็งแรงที่สุด

ตับทำงานหนักกว่าที่เราคิดมาก อวัยวะนี้รับผิดชอบหลายหน้าที่พร้อมกัน ทั้งการเผาผลาญสารอาหาร ผลิตน้ำดี สังเคราะห์โปรตีน และที่สำคัญที่สุดคือ การล้างพิษ ดังนั้นหากอยากให้ตับแข็งแรง ต้องช่วยให้ตับ “ดีท็อกซ์” เป็นประจำ เพื่อรักษาการทำงานและป้องกันโรค หนึ่งในปัจจัยสำคัญคือ อาหารที่เรากิน

การใช้เมล็ดถั่วตัวเล็ก ๆ อย่าง ถั่วเขียว ก็สามารถช่วยให้ตับสะอาดและแข็งแรงขึ้นได้ แม้ไม่ใช่ทุกคนจะรู้วิธีใช้ให้ได้ผล

ถั่วเขียวช่วยล้างพิษตับอย่างไร?

ตามคำแนะนำของ ดร.ชาง ยุน มณฑลซานตง ประเทศจีน ถั่วเขียวถือเป็น “ยาล้างพิษตับ” ในแพทย์แผนจีน มีรสหวานและฤทธิ์เย็น ช่วย ระบายความร้อน เสริมพลังชีวิต ล้างพิษ และปกป้องตับ จากความร้อนภายใน รังสียูวี หรือการติดเชื้ออักเสบ

ในมุมมองของ แพทย์แผนปัจจุบัน ถั่วเขียวอุดมไปด้วยสาร โพลีฟีนอลและฟลาโวนอยด์ ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระชั้นเยี่ยม ช่วยกำจัดอนุมูลอิสระ ชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์ตับ และป้องกันการกลายพันธุ์ที่อาจนำไปสู่มะเร็ง

นอกจากนี้ ใยอาหารในถั่วเขียวยังช่วย ขับสารพิษผ่านทางลำไส้ ลดภาระการทำงานของตับ ส่วนวิตามินบีและแร่ธาตุอย่าง แมกนีเซียมและโพแทสเซียม ช่วยให้ตับปรับปรุงการเผาผลาญและรักษาการทำงานให้สมดุล

ข้อดีอีกประการคือ ถั่วเขียวเมื่อทานอย่างถูกวิธี ไม่เพียงช่วย ล้างพิษตับ แต่ยังส่งผลดีต่ออวัยวะอื่น ๆ ในร่างกาย เช่น ช่วย ระบายความร้อนของตับ ลดไขมันในตับ ป้องกันโรคตับอักเสบจากความผิดปกติของการเผาผลาญ และยังช่วย ลดความเสี่ยงมะเร็งตับ อีกด้วย

ทานถั่วเขียวอย่างไรให้ดีต่อสุขภาพตับ?

ถั่วเขียวถือเป็น “ยาวิเศษ” สำหรับตับ แต่หากทานผิดวิธีกลับเป็นภาระต่อตับเอง เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด ดร.ชาง แนะนำหลักปฏิบัติ ดังนี้

  • ปริมาณที่เหมาะสม: ผู้ใหญ่สุขภาพดีควรใช้ถั่วเขียวดิบประมาณ 50–70 กรัมต่อการปรุงหนึ่งครั้ง ซึ่งเทียบเท่ากับ ข้าวต้มหรือซุปใสหนึ่งถ้วย และทานสัปดาห์ละ 2–3 ครั้ง สำหรับเด็กหรือผู้สูงอายุ ใช้เพียง 20–30 กรัมต่อครั้ง การทานมากเกินไปอาจทำให้ร่างกายเย็นเกินไป แน่นท้อง และย่อยยาก
  • ช่วงเวลาที่เหมาะสม: ถั่วเขียวมีฤทธิ์เย็น จึง ไม่ควรทานตอนท้องว่าง เพราะอาจทำให้ปวดท้อง ท้องเสีย และกระทบกระเพาะอาหาร วิธีที่ดีที่สุดคือทาน หลังมื้อหลัก หรือช่วงกลางวัน–บ่าย เมื่อร่างกายมีพลังงานเพียงพอ
  • วิธีปรุง: ควรเลือกเมนูง่าย ๆ เช่น ข้าวต้ม ซุป หรือขนมหวานแบบจืด ควรต้มพร้อมเปลือกเพื่อเก็บ โพลีฟีนอลและใยอาหาร อันมีประโยชน์ในการล้างพิษตับ จำกัดการใส่น้ำตาล น้ำกะทิ หรือสังขยามากเกินไป เพราะน้ำตาลและไขมันอิ่มตัวจะเพิ่มภาระให้ตับ
  • กลุ่มที่ควรระวัง:
    • ผู้ที่กำลังทาน ยาจีน ไม่ควรทานถั่วเขียว เพราะอาจลดฤทธิ์ยา
    • ผู้หญิงใน ช่วงมีประจำเดือน ควรจำกัด เพราะถั่วเขียวอาจทำให้ท้องเย็นและปวดมากขึ้น
    • ผู้มีปัญหา ลำไส้หรือกระเพาะอ่อนแอ ควรใช้ปริมาณน้อยและต้มจืดเพื่อให้ย่อยง่าย
  • การจับคู่กับอาหารอื่นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ:
    • ถั่วแดง: ช่วยขับปัสสาวะ ลดบวม เสริมกระเพาะอาหาร เมื่อรวมกับถั่วเขียว จะย่อยง่ายและเพิ่มฤทธิ์ระบายความร้อนล้างพิษ
    • ว่านหางจระเข้: ช่วยทำให้ตับเย็นลงและบรรเทากระเพาะอาหาร ขนมหวานถั่วเขียวผสมว่านหางจระเข้ไม่เพียงดับร้อนในฤดูร้อน แต่ยังช่วยควบคุมน้ำหนักด้วย
Scroll to Top