เปิดวันลงทะเบียน @คนละครึ่ง ใช้ได้สูงสุดวันละ 400 บ.!!

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่า โครงการคนละครึ่ง ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาล จะดำเนินการ 2 เฟส โดยเฟสแรกใช้งบประมาณดำเนินการประมาณ 6 หมื่นล้านบาท จากงบประมาณปี 2568 และปี 2569 จะให้สิทธิ 33 ล้านคน แบ่งเป็น 1.ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 13 ล้านคน รัฐบาลจะเติมเงินให้อีก 1,700 บาท จากเดิมให้อยู่แล้ว 300 บาท รวมเป็น 2,000 บาท โดยจะเติมให้ครั้งเดียวและใช้ได้ 2 เดือน ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2568 โดยกลุ่มจะใช้จ่ายตามวงเงินที่ซื้อจริง ไม่ได้สิทธิ 50:50

2.ผู้ที่ไม่ได้อยู่ในระบบภาษี จำนวน 9 ล้านคน รัฐจ่ายให้คนละ 2,000 บาท ใช้จ่ายใน 2 เดือนตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2568 โดยใช้จ่ายสูงสุดไม่เกิน 200 บาทต่อวัน

3.ผู้ที่อยู่ในระบบภาษี จำนวน 11 ล้านคน จะได้เงินคนละ 2,400 บาท ใช้จ่ายใน 2 เดือน ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2568 โดยใช้จ่ายสูงสุดไม่เกิน 200 บาทต่อวัน ซึ่งกลุ่มนี้เพราะเป็นผู้เสียภาษี รัฐจึงจ่ายท็อปอัพให้มากกว่าประชาชนทั่วไป จาก 2,000 บาท เป็น 2,400 บาท แต่ใช้จ่าย 50:50 เหมือนกลุ่มประชาชนทั่วไป เพียงแต่เวลาลงทะเบียนต้องระบุว่าเป็นผู้เสียภาษี

กลุ่มผู้ที่ไม่ได้อยู่ในระบบภาษีและอยู่ในระบบภาษีนี้ หลักการใช้จ่ายต่อวัน รัฐจ่ายให้ 200 บาท และผู้ได้สิทธิต้องจ่ายเอง 200 บาท เท่ากับเป็นการใช้จ่ายต่อวัน 400 บาท เช่น ซื้อพิซซ่า 500 บาท รัฐจ่ายให้ 200 บาท ที่เหลือ 300 บาทก็จ่ายเอง เป็นต้น แต่ถ้ายังใช้ไม่หมดในวันนั้นก็สามารถนำไปใช้ในวันถัดไปได้ เพราะเราให้เวลาใช้ 2 เดือน

คาดว่าจะเริ่มเปิดให้ลงทะเบียนได้ในช่วงกลางเดือนตุลาคมนี้ โดยให้เวลาลงทะเบียนประมาณ 7 วัน ซึ่งผู้ที่เข้ามาตรการต้องมีอายุ 16 ปีขึ้นไปและได้สิทธิทุกคน และคาดว่าจะเริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคมเป็นต้นไป” นายสิริพงศ์กล่าว

นายสิริพงศ์กล่าวว่า สำหรับประเภทสินค้าที่ไม่สามารถใช้จ่ายผ่านโครงการคนละครึ่งได้นั้น จะเหมือนกับครั้งที่ผ่านมา อาทิ เครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ บุหรี่ หนังสือ เป็นต้น โดยสามารถซื้อในสินค้าอุปโภคบริโภค เครื่องดื่ม อาหาร ของใช้จิปาถะ จ่ายค่าโดยสารสำหรับใช้บริการรถที่มีใบขับขี่สาธารณะ เช่น มอเตอร์ไซค์รับจ้างและแท็กซี่ รวมถึงยังสามารถนำไปใช้จ่ายนวดสปา นวดเท้า ทำผม ทำเล็บ เสริมสวยได้ด้วย ซึ่งเป็นรายการที่เพิ่มเติมเข้ามา

นายสิริพงศ์กล่าวว่า สำหรับโครงการคนละครึ่งเฟส 2 นั้น รัฐบาลดำเนินการอย่างแน่นอน คาดว่าจะเริ่มได้หลังจบเฟสแรกไปแล้ว คือหลังเดือนธันวาคมนี้ โดยอาจจะเป็นในเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2569 แต่ยังไม่เป็นที่สรุปชัดเจน รอกระทรวงการคลังเป็นผู้ทำรายละเอียดโครงการและงบประมาณที่จะนำมาดำเนินการด้วย ทั้งนี้แนวคิดเบื้องต้น คืออาจจะเน้นกลุ่มที่เสียภาษี และคนที่ได้สิทธิเฟสแรกไปแล้ว ก็ยังมีสิทธิที่จะได้เฟส 2 ด้วย แต่อาจจะมีเงื่อนไขการให้สิทธิเพิ่มเติม เช่น ร้านค้าจะต้องมีการอบรมขายผ่านออนไลน์ เป็นต้น

Scroll to Top