จากกรณีนาย สันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล ทำหนังสือขอเข้าพบ นาย อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เพื่อให้ข้อมูลนักการเมือง 4 คน ระดับบริหารในพรรคเอี่ยวบ่อนชายแเดน

วันที่ 20 กันยายน 2568 นาย สันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล เปิดเผยว่า ได้ไปยื่นหนังสือ เพื่อขอเข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับนักการเมืองภายในพรรคระดับบริหาร 4 คน ซึ่งมี 2 คน ตอนนี้เป็นรัฐมนตรี มีพฤติกรรมเข้าไปเกี่ยวข้องเป็นหุ้นส่วนใหญ่ของบ่อนกาสิโนในพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดนไทย – เขมร ซึ่งได้รับผลประโยชน์มหาศาล และทำธุรกิจนี้มานานกว่า 10 ปีแล้ว
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าเป็นใคร จะเปิดเผยวันที่เข้าพบนายกรัฐมนตรีเท่านั้น ตนมีหลักฐานที่จะมอบให้กับนายกรัฐมนตรี หากว่านัดวันและให้ตนเข้าพบ จะมอบให้กับนายกรัฐมนตรีทั้งหมด

นายสันธนะ บอกว่า ที่ตนเองออกมาพูดวันนี้ ยืนยันไม่ได้ต้องการเจรจา หรือจะทำธุรกิจกับใคร แต่ออกมาพูด เพราะตนเองติดตามข่าวความไม่สงบชายแดนไทย – กัมพูชา รู้สึกสงสารทหาร รู้สึกสงสารชาวบ้านที่สูญเสีย วันที่มีการเจรจาให้หยุดยิง ตนเองยังรู้สึกสงสัยว่าจะรีบไปเจรจาทำไม ศักยภาพการรบของไทยเหนือกว่ากัมพูชา ทำไมถึงไม่จัดการให้เบ็ดเสร็จ เพราะผลประโยชน์อะไรหรือไม่
นายสันธนะ ยังกล่าวอีกว่า ตนเองเป็นนักธุรกิจ ยอมรับว่าไม่ได้ขาวสะอาดนัก รู้ดีว่าใครเป็นอย่างไร ปกติตนเองไม่อยากยุ่งเรื่องคนอื่น แต่นี่เกี่ยวข้องกับบ้านเมือง การที่บ่อนรุกล้ำพื้นที่เขตแดนไทย เพราะนักการเมือง เข้าไปเกี่ยวข้องกับการแบ่งผลประโยชน์ ในพื้นที่ชายแดน ทำให้ไทยต้องเสียพื้นที่แบบนี้
ทั้งนี้ นายสันธนะ เชื่อว่า นายกรัฐมนตรีจะไม่ตอบรับนัดของตนเอง ซึ่งบอกว่าไม่เป็นไร ตนจะบุกไปที่พรรคเลย ตนอยากให้นักการเมืองหยุดทำธุรกิจก่อน ขอให้เห็นประโยชน์ของชาติบ้านเมืองบ้าง หากสงครามจบแล้วค่อยกลับมาทำธุรกิจใหม่ ไม่อยากให้เปิดด่านตอนนี้
ประเด็นร้อน