ภาพจากกล้องวงจรปิดที่หน้าตลาดนางรำ ในต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ที่ทางญาติและผู้เห็นเหตุการณ์ส่งให้กับทีมข่าว ได้เห็นพฤติกรรมในขณะที่เด็กนักเรียนชายวัย 17 ปี ถูกรุมแทงจนเสียชีวิต โดยจากภาพวงจรปิดมุมนี้จะเห็นว่า จังหวะที่ น้องตัง หรือ นายสุธิมนต์ (สงวนนามสกุล) นักเรียนช่างกลวิทยาลัยแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรปราการ พยามขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีกลุ่มวัยรุ่นที่ไล่ตามหลังมา โดยที่น้องตังถูกถีบรถจยย.จนล้มลง และยังไม่ทันจะได้ลุกขึ้นมา ก็ถูกมือมีดจ้วงแทงไม่ยั้งหลายครั้ง จนฟุบกองกับพื้น ไม่หนำใจยยังถูกเพื่อนของมือมีดเตะซ้ำอีกครั้ง ก่อนที่พวกก่อเหตุจะพากันขี่จยยหลบหนีไป
ขณะที่คลิปจากมือถือของชาวบ้านอีกมุม จะเห็นว่าชาวบ้านพากันร้องเสียงหลงและตะโกนห้ามกลุ่มผู้ก่อเหตุ ท่ามกลางสายตาพ่อค้าแม่ขายรวมถึงผู้ที่มาใช้บริการภายในตลาดดังกล่าวจำนวนมาก โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเวลาประมาณเกือบ 09.00 น. ของวันที่ 10 ก.ย. 68
หลังเกิดเหตุไม่นานเจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยบางเสาธง พยามช่วยเหลือและทำ CPR เพื่อยื้อชีวิตของ น้องตัง ก่อนจะรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลบางเสาธง โดยพบบาดแผล ถูกของมีคมปลายแหลม แทงเข้าที่ สีข้างใต้ราวนมข้างซ้ายจำนวน 2 แผล และ ต้นขาขวา 1 แผล ข้อมือซ้าย 2 แผล และกลางหลัง 1 แผล แต่น้องตังทนพิษบาดแผลไม่ไหว และเสียชีวิตต่อมาที่โรงพยาบาล
จากสอบถาม นายโต (นามสมมุติ) เพื่อนของน้องตัง บอกว่า ตนเองและเพื่อนขับรถออกจากบ้านพักไม่ไกลจากที่เกิดเหตุเพื่อที่จะไปเรียนและสอบในวันนี้ พอมาถึงหน้าตลาดกลุ่มผู้ก่อเหตุขับสวนทางมาแล้วชักมีดชูใส่กลุ่มตน กลุ่มตนจึงไล่กลุ่มผู้ก่อเหตุไป ตอนแรกก็คิดว่าจะจบ และกำลังจะแยกย้ายไปโรงเรียน จังหวะที่เพื่อนกำลังขับรถตามหลังมา ถูกกลุ่มผู้ก่อเหตุย้อนกลับมาพร้อมเพื่อนและก่อเหตุดังกล่าว
ส่วนแม่ค้าบางคนที่เห็นเหตุการณ์ ระบุว่า น้องตังหลังจากที่ถูกแทง เจ้าตัวพยามยกมือไหว้ร้องขอชีวิตแล้ว แต่อีกฝ่ายก็ไม่สน และเตะซ้ำจนฟุบจมกองเลือด ชาวบ้านอีกคนบอกว่า พอหันมาเห็นว่า น้องถูกแทงและเตะซ้ำตนเองก็รีบวิ่งเข้ามาห้ามปราบและคว้ามือถือถ่ายภาพรถและทะเบียนของผู้ก่อเหตุเอาไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะเข้าช่วยเหลือน้องผู้บาดเจ็บ ส่วนกลุ่มผู้ก่อเหตุมากันหลายคนสวมใส่ชุดนอก คาดว่าหน้าจะทำงานรับจ็อปในคลังสินค้าในละแวกที่เกิดเหตุ
ขณะที่ นางศรีสมร อายุ 46 ปี แม่ของของผู้เสียชีวิต เจ้าตัวหลังทราบข่าวรีบเดินทางมายังโรงพยาบาล เพื่อดูลูกชาย แต่สุดท้ายไม่ทันได้ดูใจและต้องสูญเสียลูกชายไปในครั้งนี้ ซึ่งคุณแม่ถึงกับร่ำไห้แทบขาดใจ จนสติหลุด นักข่าวเราต้องกุมมือคุณแม่ไว้และปลอบใจเพื่อลดความตึงเครียด เพราะเกรงว่าคุณแม่จะช็อกไปอีกคน ขณะที่คุณแม่เล่าทั้งน้ำตาด้วยเสียงสั่นเครือ ระบายความจากใจของคนเป็นแม่ให้ฟังว่า ตนเองมีลูกชายคนนี้เพียงคนเดียว ช่วงเช้าที่ผ่านมาลูกชายส่งข้อความขอเงิน 40 บาท เพื่อจะไปเข้าเรียนและสอบในวันนี้
ตนเองก็โอนไปให้ลูก 50 บาท เพราะไม่มีเงินมากมายอะไร และเพิ่งจ่ายค่างวดรถไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ซึ่งตนเองยังสอนและเตือนลูกชาย อย่าไปรับจ้างเปิดบัญชีหรือรับจ้างทำผิดกฎหมายใด ซึ่งคอยเตือนคอยบอกลูกเสมอ ไม่คิดว่าจะเป็นข้อความสุดท้ายที่ได้คุยกับลูก ปกติแล้วตนเองก็อยู่กับลูกเพียงสองคน เช้ามาตนเองก็ออกไปทำงานเป็นรปภ. ส่วนลูกก็ไปเรียน ไม่ค่อยได้เจอหน้ากันเท่าไหร่ แต่ก็ติดต่อกันทางข้อความตลอด เพราะห่วงลูกและมีลูกคนเดียว
โดยบางช่วงคุณแม่ถึงกับสติขาดตะโกนเรียกลูกชายเพื่อขอกอดร่างไร้วิญญาณที่โรงพยาบาล ขณะที่เพื่อนร่วมงานและญาติต้องเข้ากอดปลอบใจคุณแม่ทันที โดยเฉพาะช่วงที่รถกู้ภัยนำร่างของลูกชายออกจากโรงพยาบาลบางเสาธงไปยังนิติ คุณแม่ได้ตะโกนเรียกหาลูกชายจนแทบขาดใจ ซึ่งสร้างความสะเทือนใจแก่คุณครูและเจ้าหน้าที่เป็นอย่างมาก ส่วนความคืบหน้าทางคดี ตำรวจพอทราบตัวผู้ก่อเหตุทั้งหมดแล้ว อยู่ระหว่างติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวจังหวัดสมุทรปราการ รายงาน
