ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยถึงกระแสตอบรับโครงการ คนละครึ่ง ที่รัฐบาลใหม่เตรียมสานต่อ ว่า ได้รับเสียงตอบรับอย่างดี เนื่องจากรัฐบาลยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง ไม่ได้คิดจะลอกเลียนแบบพรรคการเมืองใด เพราะสิ่งสำคัญคือ ประชาชนได้ประโยชน์

นายอนุทินย้ำว่า ไม่ว่าจะเป็น โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ที่ริเริ่มในรัฐบาลทักษิณ หรือ โครงการคนละครึ่ง ที่เกิดขึ้นในสมัย พล.อ.ประยุทธ์ ล้วนเป็นโครงการที่ดี หากประชาชนได้รับประโยชน์ รัฐบาลนี้ก็พร้อมเดินหน้าต่อไป
สำหรับกระแสข่าวว่าโครงการคนละครึ่งอาจมีการปรับรูปแบบ ล่าสุด นายอนุทินเผยว่า เมื่อวันที่ 8 ก.ย. ที่ผ่านมาได้หารือกับ นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ว่าที่ รมว.คลัง และเห็นพ้องว่า หากไม่กระทบต่อวินัยการเงินการคลังและงบประมาณ สามารถปรับเงื่อนไขใหม่เป็น 60:40 สำหรับผู้เสียภาษี เพื่อเป็นแรงจูงใจให้กลุ่มนี้ ขณะที่ประชาชนทั่วไปที่ไม่ได้เสียภาษีจะยังคง 50:50 ตามเดิม
ถือเป็นไอเดียที่คุณเอกนิติ เสนอ และผมเห็นด้วย แต่ต้องไม่ขัดรัฐธรรมนูญ กฎหมาย และกรอบงบประมาณ ตอนนี้ได้รับรายงานว่างบยังเพียงพอ และเชื่อว่าจะสามารถเริ่มโครงการได้ทันภายใน 4 เดือน” นายอนุทินกล่าว พร้อมเปรียบเปรยว่า “กระเป๋ายังมีเหมือนเดิม”
สรุปเงื่อนไขใหม่โครงการ คนละครึ่ง

กลุ่มผู้เสียภาษี ได้รับสิทธิ 60:40
ประชาชนทั่วไป (ไม่ได้เสียภาษี) : ได้รับสิทธิ 50:50
คุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการ
ต้องมีบัตรประจำตัวประชาชน และมีสัญชาติไทย
มีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่เปิดรับลงทะเบียน