12 ต.ค. 2568ไทยระวังงานเข้า! “อังคณา” เตือนรัฐบาลปล่อยให้อินฟลูฯ เปิดเสียงผีหลอนใส่คนเขมรชายแดน อาจเข้าข่ายการทรมานทางจิตวิทยา อนุสัญญา CAT
นางอังคณา นีละไพจิตร สมาชิกวุฒิสภา โพสต์แสดงความเห็นผ่านเฟซบุ๊ค Angkhana Neelapaijit เกี่ยวกับการที่อินฟลู หรือกลุ่มบุคคลเข้าไปกระทำการเพื่อสร้างความกดดันหรือความหวาดกลัวการนำรถเครื่องเสียงเข้าไปเปิดเสียงเฮลิคอปเตอร์ เสียงเครื่องบิน F-16 และเสียงผี ในการกดดันชาวกัมพูชาที่บ้านหนองจานและบ้านหนองหญ้าแก้ว อาจละเมิดอนุสัญญาต่อต้านการทรมาน (CAT)เข้าข่ายการทรมานทางจิตวิทยา
ในช่วงความขัดแย้ง/ สงคราม การปล่อยให้อินฟลู หรือกลุ่มบุคคลเข้าไปกระทำการเพื่อสร้างความกดดันหรือความหวาดกลัว ถือเป็นความท้าทายอย่างมากต่อรัฐบาลโดยเฉพาะ รมต. ต่างประเทศ ถึงแนวทางการแก้ปัญหาเพื่อหาทางออกร่วมกัน รัฐบาลไทยควรตระหนักว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นถูกรายงานไปยังองค์การสหประชาชาติ วานนี้ (11 ตุลาคม) Keo Remy ประธานคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนกัมพูชา (Cambodia Human Rights Committee) ได้มีหนังสือถึงข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชน สหประชาชาติ ระบุว่า
“คณะกรรมาธิการ ได้รับรายงานที่เชื่อถือได้จากเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นและพลเรือนที่ได้รับผลกระทบในหมู่บ้านเปรย์จัน และจ็อกเจย์ ตำบลโอเบย์จอน อำเภอโอจรอว์ จังหวัดบันเตียเมียนเจย ระบุว่า หน่วยทหารแห่งราชอาณาจักรไทยได้กระจายเสียงที่มีลักษณะคล้ายเสียงโหยหวนของภูตผีผ่านลำโพงขนาดใหญ่ ตั้งแต่เวลา 22.44 น. จนถึงเวลา 00.04 น. จากนั้นได้เปิดเสียงเครื่องยนต์อากาศยานต่อเนื่อง ตั้งแต่เวลา 03.22 น. ถึงเวลา 03.53 น. โดยจงใจส่งเสียงไปยังชาวบ้านกัมพูชาในพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่ง มีเจตนาเพื่อรบกวนและข่มขวัญ เสียงเหล่านี้
ซึ่งถูกอธิบายว่าเป็นเสียงดังแหลมสูงและต่อเนื่องเป็นเวลานาน ได้ #สร้างความเดือดร้อนในการนอนหลับก่อให้เกิดความวิตกกังวลและสร้างความไม่สบายทางร่างกายในหมู่ชาวบ้าน รวมถึงสตรี เด็ก ผู้สูงอายุ ผู้ป่วย และคนพิการ การกระทำที่เป็นปฏิปักษ์และยั่วยุในลักษณะเช่นนี้ไม่เพียงเป็นอันตรายต่อสุขภาพกายและใจของพลเรือนกัมพูชาเท่านั้น
แต่ยังอาจนำไปสู่การยกระดับความตึงเครียดระหว่างสองประเทศเพื่อนบ้าน การกระทำดังกล่าวไม่มีในสังคมอารยะใด ๆ และขัดแย้งโดยตรงกับหลักการของกฎบัตรสหประชาชาติ (These actions have no place in any civilized society and stand in direct contradiction to the principles of the United Nations Charter) ซึ่งยึดมั่นในสันติภาพ สิทธิมนุษยชน และการเคารพอธิปไตยซึ่งกันและกันระหว่างประเทศ การกระทำดังกล่าวถือเป็นการละเมิดอย่างร้ายแรงต่อเจตนารมณ์ของ ข้อตกลงหยุดยิงระหว่างกัมพูชาและไทย เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2025 และ บันทึกข้อตกลง 13 ข้อของการประชุมคณะกรรมการชายแดนร่วม (GBC) สมัยวิสามัญระหว่างกัมพูชาและไทย เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2025”
รัฐบาลควรตระหนักว่า การทำใด ๆ ที่ทำให้เกิดความหวาดกลัวหรือส่งผลกระทบต่อจิตใจของพลเรือนแม้จะเป็นคู่ขัดแย้งในสงคราม โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง อาจเข้าข่าย #การทรมานทางจิตวิทยา (Psychological Torture) ตามอนุสัญญา CAT ที่ประเทศไทยเป็นภาคี อยากฟังว่ารัฐบาลจะชี้แจงเรื่องนี้อย่างไรในเวทีระดับโลก