เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 10 ตุลาคม 2568 ที่บริเวณจุดตรวจ 40 บ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เจ้าหน้าที่ทหารจาก กองกำลังบูรพา, เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจังหวัดสระแก้ว ได้เข้าประจำพื้นที่เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือภารกิจตามนโยบายของรัฐบาล
บรรยากาศทั่วไปยังคงเป็นไปอย่างปกติ ยังไม่มีการเปิดปฏิบัติการผลักดันหรือขับชาวกัมพูชาออกจากพื้นที่ ตามกระแสข่าวที่เผยแพร่ก่อนหน้านี้
ด้าน ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่อาสาสมัคร (อส.) อำเภอโคกสูง นำ ป้ายขั้นตอนการปฏิบัติงาน มาปักไว้บริเวณถนนศรีเพ็ญ เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ทราบแนวทางดำเนินการของภาครัฐ โดยมีเนื้อหาหลัก 3 ประการ ได้แก่

1.จุดกำหนดบ้านหนองจาน – จุดยืนของรัฐบาล
นายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล ยืนยันแล้วว่า ให้ชาวกัมพูชาที่รุกล้ำพื้นที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ต้องออกจากพื้นที่ตามข้อตกลงเดิม
2.ที่มาข้อตกลง GBC (General Border Committee)
กลไกความร่วมมือทวิภาคีระหว่างไทย-กัมพูชา เพื่อจัดการและแก้ไขปัญหาชายแดน โดยมีเงื่อนไขหลัก ได้แก่ การถอนอาวุธ การถอนกำลัง การปราบปรามขบวนการสแกมเมอร์ และการบริหารสถานการณ์ร่วมกัน
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 17 กันยายน ที่ผ่านมา ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้วและผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียเมียนเจย ได้ประชุมหารือเพื่อความสงบเรียบร้อยของชายแดนและได้ตกลงให้ฝั่งกัมพูชาจัดแผนอพยพราษฎรที่รุกล้ำออกจากพื้นที่ ภายในวันที่ 10 ตุลาคม 2568 ก่อนการประชุม GBC ครั้งต่อไป
3.การมอบอำนาจเต็มจากนายกรัฐมนตรี
นายอนุทินระบุว่า ได้มอบอำนาจให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเต็มที่แล้ว โดยมีโครงสร้างการบังคับบัญชา 3 ด้าน คือ
– กระทรวงกลาโหม ดูแลอธิปไตยชายแดนภายใต้กรอบกฎอัยการศึกและ GBC โดยมอบหมายให้ กองทัพไทย (RBC) และ กองทัพภาคที่ 1 ผ่านกองกำลังบูรพา ดำเนินการในพื้นที่
– กระทรวงการต่างประเทศ รับผิดชอบด้านการทูต ผ่านคณะกรรมการชายแดนร่วม (JBC)
– ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ดูแลการบริหารจัดการในพื้นที่ร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่น ได้แก่ ป่าไม้ ตม. คฝ. และ อส.
ขณะเดียวกัน ที่ บริเวณหลักเขตแดนที่ 46 บ้านหนองจาน พบว่ามี ทหารกัมพูชาจำนวนหนึ่งประจำการอยู่ในเพิงพัก คอยสังเกตการณ์ความเคลื่อนไหวของฝ่ายไทยอย่างใกล้ชิด
ส่วนบริเวณ แนวลวดหนามบ้านหนองหญ้าแก้ว ต.โคกสูง อ.โคกสูง พบว่ามี ชาวกัมพูชาประมาณ 30-40 คน มารวมตัวอยู่ใกล้แนวชายแดน โดยสถานการณ์ยังคงสงบ แต่เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายยังคงตรึงกำลังเข้มเพื่อป้องกันเหตุไม่คาดคิด