เมื่อเวลา 08.45 น. วันที่ 8 ตุลาคม 2568 ที่สถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย (TIJ) พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ โฆษกกองทัพเรือ แถลงถึงภารกิจของ พลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ที่ลงพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณจังหวัดจันทบุรีและตราด เพื่อรับทราบสถานการณ์ล่าสุดด้านความมั่นคง ข่าวกรอง และความพร้อมของฝ่ายไทย หากเกิดสถานการณ์ที่จำเป็นต้องใช้กำลัง
การลงพื้นที่ครั้งนี้ยังเป็นการติดตามการแก้ไขปัญหาการรุกล้ำเขตแดนใน 17 จุดที่มีปัญหา โดยเฉพาะกรณีสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง การขุดคูเลต ป่ายาง และฐานที่มั่นทางทหาร ซึ่งฝ่ายไทยได้มีการดำเนินการแก้ไขแล้วในหลายจุด และถือว่าเป็นที่น่าพอใจ ผบ.ทร. ได้กำชับให้ดำเนินการต่อเนื่องจนกว่าการรุกล้ำทั้งหมดจะถูกถอนออกจากพื้นที่ฝั่งไทยอย่างเด็ดขาด
อีกหนึ่งภารกิจสำคัญคือการติดตามความคืบหน้าตามนโยบายของสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในการติดตั้งรั้วตลอดแนวชายแดน ซึ่งจุดหลักเขตที่ 52 ถึง 58 ถูกระบุว่าเป็นพื้นที่ที่สามารถดำเนินการได้ก่อน เนื่องจากทั้งสองฝ่ายเห็นชอบร่วมกัน และมีปัญหาน้อยที่สุด ผบ.ทร. ได้สั่งการให้เร่งสำรวจและออกแบบรั้วเพื่อป้องกันปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ เช่น การลักลอบขนยาเสพติด และการเข้าเมืองผิดกฎหมาย เพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชนในพื้นที่
นอกจากนี้ ผบ.ทร. ยังได้เดินทางไปให้กำลังใจกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่ชายแดนซึ่งยังคงตึงเครียด พร้อมชื่นชมในความเสียสละ แม้ว่าจะยังไม่สามารถสับเปลี่ยนกำลังได้ในบางจุด เนื่องจากสถานการณ์ยังไม่น่าไว้วางใจ
ในส่วนของโครงการสร้างถนนในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณ อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ใกล้ด่านบ้านแหลม ซึ่งเป็นจุดที่มีการรุกล้ำเข้ามาในลักษณะพื้นที่รูปตัวยูและตัว ก. โดยฝ่ายตรงข้ามมีการขุดคูเลตเปลี่ยนทิศทางกระแสน้ำ ทำให้พื้นที่บางส่วนถูกตัดออกไปจากฝั่งไทย ทหารไทยได้เข้าไปปรับภูมิประเทศด้วยการถมคูกลับคืน โดยได้รับความร่วมมือจากประชาชนในพื้นที่ที่นำเครื่องมือและแรงงานมาช่วยฟื้นฟูดินแดนไทย
สำหรับโครงการสร้างถนนระยะทาง 15 กิโลเมตรนั้น ขณะนี้คืบหน้าไปแล้วกว่า 13 กิโลเมตร คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนตุลาคมนี้ โดยจะสามารถใช้เป็นเส้นทางยุทธวิธีสำหรับเคลื่อนย้ายกำลังพลได้ และมีแผนปรับปรุงผิวถนนเพิ่มเติมด้วยการลงลูกรังในระยะต่อไป
โฆษกกองทัพเรือยังกล่าวถึงกระแสสังคมบางส่วนที่อาจไม่เข้าใจบทบาทของกองทัพ โดยยืนยันว่า กองทัพเรือยังคงปฏิบัติหน้าที่ในการปกป้องอธิปไตยของชาติอย่างเต็มกำลัง พร้อมขอให้ประชาชนเชื่อมั่นว่า เราจะไม่ยอมเสียดินแดนแม้แต่ตารางนิ้วเดียว