เช็กคนละครึ่งพลัส เตือน 7 ล้านคนอาจชวด รู้ก่อนลงทะเบียน 20 ต.ค.นี้.!!

สำหรับโครงการ “คนละครึ่งพลัส” ปี 2568 ภายใต้การบริหารของรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เตรียมเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนระหว่างวันที่ 20–26 ตุลาคม 2568 กำลังกลายเป็นกระแสที่สังคมจับตามอง เพราะมีแนวโน้มว่าอาจมีประชาชนกว่า 7 ล้านคน ที่เคยได้รับสิทธิ์จาก “คนละครึ่ง” ต้องพลาดสิทธิ์ในรอบใหม่นี้

โครงสร้างโครงการ “คนละครึ่งพลัส 2568”

รัฐบาลแบ่งสิทธิ์ออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ เพื่อให้เหมาะสมกับสถานะทางเศรษฐกิจและภาษีของประชาชน

1. กลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ – 13 ล้านคน ได้รับเงินเพิ่ม 1,700 บาทต่อเดือน รวมกับสิทธิเดิม 300 บาท เป็น 2,000 บาทต่อเดือน โดย ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่

2. กลุ่มคนทั่วไป (อยู่นอกระบบภาษี) – 9 ล้านคน ได้สิทธิ์แบบ 50:50

รัฐบาลสมทบ 2,000 บาท

ประชาชนเติมเงินเองอีก 2,000 บาท

ใช้จ่ายผ่านแอปฯ “เป๋าตัง” ไม่เกินวันละ 200 บาท

3. กลุ่มคนทั่วไป (อยู่ในระบบภาษี) – 11 ล้านคน ได้สิทธิ์แบบ 60:40

รัฐบาลสมทบ 2,400 บาท

ประชาชนเติมเงินเอง 2,000 บาท

ใช้ผ่านแอปฯ “เป๋าตัง” จำกัดวันละ 200 บาท

รวมแล้วคาดว่าจะมีผู้ได้รับสิทธิ์ทั้งหมด ราว 33 ล้านคน เฉพาะกลุ่มที่เข้าเกณฑ์

จากข้อมูลสถิติพบว่า โครงการคนละครึ่ง ในอดีต มีผู้เข้าร่วมในกลุ่มประชาชนทั่วไปสูงถึง 27 ล้านคน แต่โครงการคนละครึ่งพลัสในครั้งนี้ ได้กำหนดโควตาสำหรับกลุ่มประชาชนทั่วไป (กลุ่มผู้อยู่ในและนอกระบบภาษี) ไว้เพียง 20 ล้านคนเท่านั้น ทำให้เกิดส่วนต่างของจำนวนผู้มีสิทธิ์หายไปประมาณ 7 ล้านคน

สาเหตุที่อาจทำให้พลาดสิทธิ์ ได้แก่

รายได้เกินเกณฑ์ภาษี หรือไม่เข้าเกณฑ์กลุ่มเป้าหมาย

ไม่ยืนยันตัวตนในแอปฯ “เป๋าตัง”

พ้นคุณสมบัติ เช่น เสียชีวิต หรือไม่มีสัญชาติไทย

เปลี่ยนสถานะภาษี เช่น เข้าระบบประกันสังคมหรือเป็นข้าราชการ

จำกัดสิทธิ์ตามงบประมาณรวมเพียง 44,000 ล้านบาท

ไทม์ไลน์สำคัญ “คนละครึ่งพลัส 2568”

15 ต.ค. 68 : เปิดลงทะเบียนร้านค้าเข้าร่วมโครงการ

20–26 ต.ค. 68 : เปิดให้ประชาชนลงทะเบียนผ่านแอปฯ “เป๋าตัง”

29 ต.ค. 68 : เริ่มใช้สิทธิ์ได้ทันที

31 ธ.ค. 68 : สิ้นสุดโครงการ

สรุป ตัวเลข “7 ล้านคนอาจชวดสิทธิ์” เป็นเพียงการประเมินจากข้อมูลโครงการก่อนหน้า เนื่องจากฐานข้อมูลประชาชนมีการเปลี่ยนแปลงต่อเนื่อง เช่น การเข้าระบบภาษี หรือได้รับสิทธิ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐในภายหลัง

ดังนั้น ช่วงวันที่ 20 ตุลาคมนี้ จึงเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ประชาชนควรรีบตรวจสอบสิทธิ์และยืนยันตัวตน เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสรับสิทธิ์ในโครงการ “คนละครึ่งพลัส” รอบใหม่

Scroll to Top