เปิดอาการล่าสุด เด็กชาย ชาวบ้าน หลังถูกสิงโตอินฟลูฯ ขย้ำ…

จากกรณีสิงโตอินฟลูฯ ดังขย้ำเด็ก โดย สิงโตของอินฟลูเอนเซอร์ดัง ได้หลุดจากกรงภายในบ้านในพื้นที่หมู่ 8 บ้านรางขาม ต.หนองกุ่ม อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี ก่อนพุ่งเข้าทำร้าย เด็กชายวัย 11 ปี และชายวัย 43 ปี ได้รับบาดเจ็บ เมื่อค่ำวันที่ 4 ตุลาคม 2568 เวลา 20.45 น. โดยบริเวณที่เกิดเหตุอยู่ข้างทางสาธารณะของหมู่บ้าน​ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ได้รับบาดเจ็บส่งเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลค่ายสุรสีห์ลาดหญ้าแล้ว

ล่าสุดอาการของ เด็กชายวัย 11 ปี ที่ถูกสิงโตทำร้ายเป็นแผลมีทั้งรอยเล็บข่วนและรอยกัดโดยเฉพาะบริเวณสะโพกขวาเนื้อหลุดเป็นแผลฉกรรจ์ ขณะนี้นอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลค่ายสุรสีห์ และชายวัย 43 ปี ถูกข่วนที่ขาเป็นแผล เย็บ 4 เข็ม ปัจจุบันอาการปลอดภัย และกลับไปรักษาตัวต่อที่บ้านพักแล้ว

ขณะที่ นายอรรถพล​ เจริญชันษา​ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ​ สัตว์ป่า​ และพันธุ์พืช​ เปิดเผยว่า​ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น​ นายสุชาติ​ ชมกลิ่น​ รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) ได้รับทราบเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว และได้สั่งการให้กรมอุทยานแห่งชาติฯ​ ดำเนินคดีกับเจ้าของสิงโตรายนี้อย่างเด็ดขาดโดยไม่ละเว้น พร้อมสั่งยึดสิงโตเพื่อนำไปดูแลในสถานที่ที่เหมาะสม​ โดยขณะสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าบึงฉวาก​ จ.สุพรรณบุรี​ ได้มีการเตรียมสถานที่เพื่อรองรับสิงโตตัวดังกล่าวแล้ว ทั้งนี้เพื่อเป็นตัวอย่างและบทเรียนให้แก่ผู้ที่ต้องการจะเลี้ยงสัตว์ป่าคุ้มครอง ให้ตระหนักถึงความรับผิดชอบและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อความปลอดภัยของผู้อื่น

​เบื้องต้น​ นายปริญญา ซึ่งเป็นเจ้าของสิงโตตัวดังกล่าว และเป็นอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังในโลกออนไลน์ มีผู้ติดตามจำนวนมากทั้งใน Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok โดยเนื้อหาที่มักเผยแพร่คือการเลี้ยงสัตว์แปลก โดยเฉพาะสิงโตตัวที่หลุดในครั้งนี้

ล่าสุด นายปริญญา ได้ถูกแจ้งข้อหาเนื่องจากมีความผิดตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 มาตรา 15 ที่ระบุว่า ห้ามมิให้ผู้ใดปล่อยสัตว์ป่าคุ้มครองจากการดูแลของตนให้เป็นอิสระ หรือหลุดพ้นจากการดูแลของตน ซึ่งผู้กระทำผิดจะต้องได้รับโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

​กรมอุทยานแห่งชาติ​ สัตว์ป่า​ และพันธุ์พืช​ ขอยืนยันว่า จะบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดกับผู้ที่ฝ่าฝืน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นอีก และขอเตือนไปยังผู้ที่เลี้ยงสัตว์ดุร้ายขอให้ตระหนักถึงอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น​ เนื่องจากสัตว์ทุกตัวมีสัญชาตญาณของความดุร้าย​ หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดที่กระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้อื่นจะถูกลงโทษและดำเนินคดีทางกฎหมายอย่างเด็ดขาด

Scroll to Top