วันที่ 5 ตุลาคม 2568 ความคืบหน้าโครงการ คนละครึ่งพลัส ภายใต้รัฐบาลชุดใหม่ นำโดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เตรียมนำโครงการเข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัปดาห์หน้า ถือเป็นมาตรการเร่งด่วนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยนำโครงการคนละครึ่งในยุครัฐบาลก่อนกลับมาใช้ใหม่ พร้อมปรับปรุงให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คนละครึ่งพลัส ยังคงใช้หลักการเดิม คือ ประชาชนจ่ายครึ่งหนึ่ง รัฐบาลสมทบอีกครึ่งหนึ่ง แต่เพิ่มวงเงินจากเดิม 150 บาทต่อวัน เป็น 200 บาทต่อวัน โดยประชาชนจะได้รับสิทธิวงเงินรวม 4,000 บาท ขณะที่รัฐจะอุดหนุนเพิ่มขึ้นตามสัดส่วน
งบประมาณโครงการมาจากงบกระตุ้นเศรษฐกิจ 25,000 ล้านบาท และงบกลางอีก 19,000 ล้านบาท รวมเป็น 44,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบที่มีอยู่แล้ว จึงไม่เพิ่มภาระทางการคลัง
โครงการนี้จะครอบคลุมประชาชน 20 ล้านคน และจำกัดเฉพาะร้านค้ารายย่อย ไม่รวมบริษัทขนาดใหญ่ เพื่อให้เงินหมุนเวียนตกถึงมือประชาชนและผู้ประกอบการรายเล็กอย่างแท้จริง โดยนิติบุคคลขนาดเล็กที่อยู่ในระบบภาษีก็สามารถเข้าร่วมได้
ไทม์ไลน์ คนละครึ่งพลัส
15 ตุลาคม 2568
เปิดลงทะเบียนร้านค้า โดยใช้ระบบเดิม พร้อมขยายประเภทกิจการที่เข้าร่วม ได้แก่
-ร้านอาหารและเครื่องดื่ม
-บริการนวด สปา เสริมสวย ทำผม ทำเล็บ
-บริการขนส่งสาธารณะ เช่น แท็กซี่ รถรับจ้าง ผู้ประกอบการขนส่งมวลชน
20-26 ตุลาคม 2568 เปิดให้ประชาชน 20 ล้านสิทธิ ลงทะเบียนผ่านแอปฯ เป๋าตัง
-ผู้เคยลงทะเบียนแล้วสามารถยืนยันสิทธิได้ทันที
-ผู้ยังไม่เคยลงทะเบียนสามารถสมัครใหม่ได้
29 ตุลาคม – 31 ธันวาคม 2568
เริ่มใช้จ่ายได้ทันที ไม่เกินวันละ 200 บาท หากใช้ไม่ครบต่อวัน สามารถสะสมไปใช้ในวันถัดไปได้
ผู้มีสิทธิ์ต้องมีอายุ 16 ปีขึ้นไป และแบ่งสิทธิออกเป็น 3 กลุ่ม
กลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (13 ล้านคน)
-ได้รับเงินเพิ่ม 1,700 บาท/เดือน รวมกับวงเงินเดิม 300 บาท/เดือน
-รวมเป็น 2,000 บาทต่อเดือน
-ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่
กลุ่มผู้ยื่นภาษี (11 ล้านคน)
-สิทธิ์แบบ 60:40
-รัฐสมทบ 2,400 บาท
-ประชาชนเติมเงิน 2,000 บาท
-ใช้จ่ายผ่านแอป เป๋าตัง ไม่เกินวันละ 200 บาท
กลุ่มนอกระบบภาษี (9 ล้านคน)
-สิทธิ์แบบ 50:50
-รัฐสมทบ 2,000 บาท
-ประชาชนเติมเงิน 2,000 บาท
-ใช้จ่ายผ่านแอป เป๋าตัง ไม่เกินวันละ 200 บาท
ทั้งนี้ การใช้จ่ายของกลุ่ม 2 และ 3 จะเริ่มในช่วง พฤศจิกายน – ธันวาคม 2568
รัฐบาลย้ำว่าโครงการ คนละครึ่งพลัส มีเป้าหมายเพื่อลดภาระค่าครองชีพของประชาชนอย่างเร่งด่วน และฟื้นฟูเศรษฐกิจในระดับฐานราก โดยเฉพาะในช่วงปลายปีซึ่งเป็นฤดูกาลจับจ่ายใช้สอย
อย่างไรก็ตาม ยังต้องรอติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมจากที่ประชุม ครม. หากมีความคืบหน้าใด ๆ จะมีการรายงานให้ทราบโดยเร็วต่อไป
