ปลานิลถูกขนานนามว่า “ไก่น้ำ” มานาน ด้วยเนื้อขาวนุ่ม รสชาติกลมกล่อม ปรุงได้หลากหลายเมนู และอุดมด้วยสารอาหาร ไม่เพียงเป็นที่นิยมในไทย แต่ยังติดกลุ่มอาหารทะเลที่ขายดีที่สุดในโลก โดยเฉพาะในสหรัฐฯ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญยืนยันว่า ปลานิลมีปริมาณโปรตีนสูงกว่าปลาแซลมอนเสียอีก
ด้วยรสชาติอ่อนละมุน กินง่าย สามารถนำมาแทนเนื้อไก่ในอาหารประจำวันได้อย่างลงตัว จึงถูกเรียกว่า “ไก่น้ำ” อาหารใกล้ตัวที่ทั้งอร่อยและมีประโยชน์ เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย

คุณค่าทางโภชนาการโดดเด่น
ตามข้อมูลจากกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ (USDA) ปลานิล 100 กรัม มีโปรตีนสูงถึง 26 กรัม ให้พลังงานเพียง 128 แคลอรี มากกว่าปริมาณโปรตีนเฉลี่ยของปลาทะเลหลายชนิด รวมถึงปลาแซลมอน อีกทั้งยังมีไขมันต่ำเพียง 3 กรัม และส่วนใหญ่เป็นไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวและเชิงซ้อน ที่ดีต่อสุขภาพหัวใจ
นอกจากนี้ ปลานิลยังอุดมด้วยวิตามินและแร่ธาตุสำคัญต่อร่างกาย ได้แก่
- ไนอาซิน (วิตามิน B3): 24% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน
- วิตามิน B12: 31%
- ฟอสฟอรัส: 20%
- โพแทสเซียม: 20%
- ซีลีเนียม: 78%
โดยเฉพาะ ซีลีเนียม มีบทบาทสำคัญในการต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสี่ยงโรคเรื้อรังหลายชนิด และปลานิลยังอุดมด้วยแคลเซียม แมกนีเซียม ธาตุเหล็ก วิตามิน D, B3, B9 และโคลีน ที่ช่วยสนับสนุนสมอง หัวใจ และระบบภูมิคุ้มกัน
ประโยชน์ต่อร่างกาย
ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการแนะนำว่าปลานิลเหมาะกับหลายรูปแบบการรับประทาน ได้แก่:
- ควบคุมน้ำหนัก: ให้พลังงานต่ำ แต่โปรตีนสูง อิ่มนาน
- บำรุงหัวใจ: ไขมันไม่อิ่มตัวช่วยลดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) และควบคุมความดันโลหิต
- เสริมสร้างกระดูก: แคลเซียมและวิตามิน D ช่วยรักษามวลกระดูก ลดความเสี่ยงกระดูกพรุน
- ลดความเสี่ยงมะเร็ง: ซีลีเนียมช่วยป้องกันบางชนิดของมะเร็ง
ด้วยคุณค่าทางโภชนาการเหล่านี้ ปลานิลจึงไม่ใช่แค่เมนูอร่อย แต่ยังเปรียบเสมือน “ยาบำรุงธรรมชาติ” ที่ช่วยเสริมสร้างสุขภาพอย่างรอบด้าน

ได้รับความนิยมทั่วโลก
ไม่เพียงเป็นปลาคู่ครัวในบ้านของคนไทย ปลานิลยังครองตลาดโลกอีกด้วย ปลานิลติดอันดับ 10 อาหารทะเลที่มีการบริโภคมากที่สุดในสหรัฐฯ รองจากกุ้งและปลาแซลมอน
ความนิยมนี้เกิดจากการเลี้ยงง่าย มีแหล่งวัตถุดิบมั่นคง ราคาย่อมเยา และคุณค่าทางโภชนาการสูง ผู้บริโภคในสหรัฐฯ เริ่มหันมานิยมปลานิลเป็นแหล่งโปรตีนทดแทนเนื้อแดงหรือปลาทะเล
นอกจากสหรัฐฯ ปลานิลยังเป็นที่นิยมในหลายตลาดใหญ่ เช่น ยุโรป ญี่ปุ่น และจีน ท่ามกลางแนวโน้มผู้บริโภคทั่วโลกที่หันมาเลือกอาหารสุขภาพและไขมันต่ำ ปลานิลจึงถูกคาดหมายว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่องในอีกหลายปีข้างหน้า