องค์การวิจัยโรคมะเร็งนานาชาติ (IARC) ระบุว่า ตั้งแต่ปี 2012 ปลาเค็ม ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มสารก่อมะเร็งระดับ 1 เทียบชั้นความอันตรายเดียวกับบุหรี่และแร่ใยหิน
เหตุผลที่ปลาเค็มกลายเป็นภัยเงียบ
กระบวนการหมักดองที่ใช้เกลือปริมาณสูงทำให้เกิดสาร ไนโตรซามีน ซึ่งมีหลักฐานชัดเจนว่าสามารถก่อมะเร็งได้จริง งานวิจัยพบว่า ในพื้นที่ที่บริโภคปลาเค็มมาก มีอัตรามะเร็งโพรงหลังจมูกสูงกว่าค่าเฉลี่ยถึง 5-10 เท่า

นอกจากนี้ ปลาเค็มยังมีเกลือสูงถึง 13-18% มากกว่าปลาสดหลายเท่า หากกินบ่อยเสี่ยงต่อความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและหลอดเลือด อีกทั้งหากเก็บรักษาไม่ดี อาจเกิดเชื้อราสร้างสาร อะฟลาท็อกซิน ที่เพิ่มโอกาสมะเร็งตับ


กินปลาเค็มอย่างไรให้ปลอดภัยที่สุด
1. กินน้อยและไม่บ่อย ไม่เกิน 1-2 ครั้ง/เดือน และกินเพียงเล็กน้อย หลีกเลี่ยงการทอดหรือย่างไฟแรง ควรนึ่งดีที่สุด กินคู่กับผักผลไม้สดที่มีวิตามินซี เช่น มะเขือเทศ บร็อกโคลี หรือพริกหวาน เพื่อช่วยยับยั้งการสร้างสารก่อมะเร็ง
2.เก็บรักษาอย่างถูกวิธี – เลือกซื้อจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ เก็บในที่แห้งและอากาศถ่ายเท หากพบกลิ่นผิดปกติหรือมีเชื้อราขึ้นต้องทิ้งทันที โดยเฉพาะผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ และครอบครัวที่มีประวัติมะเร็ง ควรหลีกเลี่ยงการกินปลาเค็มอย่างเคร่งครัด
