ภายหลังรัฐบาลภายใต้การนำของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ประกาศเดินหน้าโครงการ คนละครึ่งพลัส หรือ คนละครึ่งรอบใหม่ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น ล่าสุด นายอนุทินได้ยืนยันว่า โครงการดังกล่าวถือเป็นมาตรการที่มีประโยชน์ต่อประชาชน เพราะเป็นการร่วมจ่ายระหว่างรัฐและประชาชน ช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายในระบบเศรษฐกิจได้ทันที

ล่าสุด วันที่ 26 กันยายน 2568 นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยรายละเอียดว่า โครงการคนละครึ่งเฟส 1 จะมีผู้ได้รับสิทธิทั้งสิ้นประมาณ 33 ล้านสิทธิ แบ่งเป็น ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจำนวน 13 ล้านสิทธิ และประชาชนทั่วไปอีก 20 ล้านสิทธิ์
โดย นายสิริพงศ์ ได้เปิดเผย นโยบาย คนละครึ่งพลัส ที่คาดว่าจะเริ่มต้นเดือนตุลาคมนี้ ผู้มีสิทธิต้องอายุ 16 ปีขึ้นไป โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้

1. ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 13 ล้านคน รัฐบาลจะเติมเงินให้อีก 1,700 บาท ซึ่งจากเดิมให้อยู่แล้ว 300 บาท แต่เติมเพิ่มอีก 1,700 บาท รวมจะได้เงินทั้งหมด 2,000 บาท ทั้งนี้ จะเติมให้ครั้งเดียวเท่านั้น ใช้ได้ 2 เดือน ตั้งแต่เดือน พ.ย.- ธ.ค. 2568
2. ผู้ที่ไม่ได้อยู่ในระบบภาษี จำนวน 9 ล้านคน คนละครึ่ง 50:50 จะได้เงินคนละ 2,000 บาท จ่ายได้วันละไม่เกิน 200 บาท ใช้ได้ 2 เดือน ตั้งแต่เดือน พ.ย.-ธ.ค. 2568
3. ผู้ที่อยู่ในระบบภาษี จำนวน 11 ล้านคน คนละครึ่ง 50:50 จะได้เงินคนละ 2,400 บาท จ่ายได้วันละไม่เกิน 200 บาท ใช้ได้ 2 เดือน คือ ตั้งแต่เดือน พ.ย.-ธ.ค. 2568
อย่างไรก็ตาม นายสิริพงศ์ ย้ำว่านโยบายของนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่ประชานิยม เพราะไม่เน้นแจก แต่เน้นมีส่วนร่วม เช่น โครงการคนละครึ่ง ประชาชนก็ต้องจ่ายด้วย หรือแม้แต่การปรับโครงสร้างหนี้ คนมีหนี้เสีย ก็ต้องมีโอกาสลืมตาอ้าปาก แต่คนมีวินัย รัฐก็ยังดูแล เพื่อจะมีกำลังซื้อได้มากขึ้น