อนุทิน ไม่ไป UN แจงปมขัดแย้งไทย-กัมพูชา ห่วงกลับมา..ไม่ทันแถลงนโยบาย..@!!

เมื่อวันที่ 23 กันยายน ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงความชัดเจนในการเดินทางไปร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA) เพื่อชี้แจงกรณีความขัดแย้งบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า หากพิจารณาตามกำหนดเวลาแล้ว มีแนวโน้มว่าจะไม่สามารถเดินทางได้ทันก่อนการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา

นายอนุทินระบุว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศในประเด็นด้านเวลา และอำนาจหน้าที่ โดยย้ำว่า การเดินทางไปร่วมประชุมดังกล่าวไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อการลงนามข้อตกลงใด ๆ พร้อมยืนยันว่า หากรัฐบาลบริหารประเทศอย่างมีความชัดเจน การแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชาสามารถดำเนินการภายในได้

หากไม่ได้เดินทางไปประชุม UNGA จะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของไทยต่อเวทีระหว่างประเทศหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ความเชื่อมั่นไม่ได้ขึ้นอยู่กับเวทีไหน แต่อยู่ที่การบริหารจัดการของรัฐบาล และการสนับสนุนจากประชาชนและกองทัพ หากทุกฝ่ายในประเทศมีความเข้าใจและเห็นพ้องกับแนวทางของรัฐบาล นั่นถือเป็นหลักประกันความเชื่อมั่นที่สำคัญ

นายอนุทินกล่าวต่อว่า แนวทางของรัฐบาลมีความชัดเจนอยู่แล้ว และในช่วงนี้จำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาเป็นลำดับแรก โดยได้มีการหารือร่วมกับหลายหน่วยงาน และเห็นตรงกันว่าไม่ควรเดินทางไปเข้าร่วมประชุม เนื่องจากสถานะอำนาจในการเจรจาอาจถูกตั้งคำถาม และอาจส่งผลเสียหายต่อท่าทีของประเทศไทย หากถูกสอบถามเรื่องอำนาจเต็มในการเจรจาแล้วไม่สามารถตอบได้อย่างชัดเจน

การพูดคุยกับคู่กรณีไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นบนเวทีสหประชาชาติ เพราะมีไม่กี่ประเทศที่เกี่ยวข้องโดยตรง กัมพูชากล่าวหาเราหลายประเด็น แต่เราสามารถชี้แจงจากในประเทศได้ ไม่จำเป็นต้องเดินทางไกล นายอนุทินกล่าว

เขายังระบุเพิ่มเติมว่า ในสัปดาห์หน้า จะมีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งเป็นภารกิจที่สำคัญกว่า หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เช่น เครื่องบินดีเลย์ จนทำให้กลับมาแถลงนโยบายไม่ทัน จะส่งผลกระทบต่อภาพรวมของรัฐบาลอย่างมาก โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานงานกับรัฐสภา เพื่อกำหนดวันแถลงนโยบายในวันที่ 29-30 กันยายน 2568

ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 รายงานสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยระบุว่าในวันที่ 23 กันยายน เวลา 13.22 น. ทหารกัมพูชาจำนวน 4 นาย ซึ่งปฏิบัติหน้าที่บริเวณพื้นที่ภูผี ได้เคลื่อนตัวเข้ามาเกาะแนวรั้วลวดหนามฝั่งตรงข้ามฐานป่ามัน ตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ

หลังจากนั้น ทหารกัมพูชาได้ใช้อาวุธปืนเล็กยาวยิงจำนวน 3 นัด โดยคาดว่าเป็นการยิงเพื่อตรวจสอบปฏิกิริยาของฝ่ายไทย อย่างไรก็ตาม ฝ่ายไทยไม่ได้ตอบโต้กลับ และไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด

ศูนย์ปฏิบัติการฯ ระบุว่า การกระทำดังกล่าวของฝ่ายกัมพูชาถือเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงอย่างชัดเจน และแสดงให้เห็นถึงความไม่จริงใจในการปฏิบัติตามพันธกรณีที่ทั้งสองฝ่ายได้ร่วมลงนามไว้ในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) และคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC)

Scroll to Top