เวลา 13.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บช.สอท. เมืองทองธานี พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. แถลงผลการดำเนินคดี 20 บริษัทเถื่อนร่วมเครือข่ายหลอกลงทุน เสียหายกว่า 27 ล้านบาท พร้อมรวบรวมหนุ่มโพสต์อวดปืนบนโซเชียล และการบูรณาการร่วม วอรูม IAC

พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. กล่าวว่า ผลการปฏิบัติการตำรวจไซเบอร์ในช่วงนี้มีการระดมกวาดล้างจับกุมอาชญากรรมทางออนไลน์ที่เกี่ยวกับอาวุธปืน ซึ่งถือว่าเป็นนโยบายเน้นหนักของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และจับกุมเครือข่ายหลอกลวงออนไลน์ที่มีการเปิดบัญชีในรูปแบบนิติบุคคล หรือม้านิติบุคคล เพื่อทำการรับเงินที่ได้จากการหลอกลวงผู้เสียหาย ซึ่งการเปิดบัญชีม้าในรูปบริษัทก็เพื่อทำให้มีความน่าเชื่อถือว่าบัญชีที่รับโอนเงินเป็นของบริ

ษัท ซึ่งแก๊งคอลเซ็นเตอร์เหล่านี้จะมีการจ้างบุคคลไปจดทะเบียนบริษัทนิติบุคคลแล้วเปิดบัญชีนำมาใช้รับเงินที่หลอกผู้เสียหาย
สำหรับเคสนี้มีผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ไว้กับ กก.3 บก.สอท.2 ว่าถูกหลอกชักชวนให้ลงทุนซื้อขายหุ้นที่มีราคาถูกกว่าราคาตลาด ผ่านบัญชีเฟสบุ๊ก “อ.นเรศ งามอภิชญ์” โดยอ้างตนเองเป็นผู้วิเคราะห์หุ้นชื่อดัง จึงได้หลงเชื่อโอนเงินเข้าไปร่วมลงทุน มูลค่าความเสียหายประมาณ 27 ล้านบาท ซึ่งผู้เสียหายได้โอนเงินไปยังบัญชีกลุ่มคนร้ายที่เป็นรูปแบบบริษัททั้งหมด 20 บริษัท จำนวน 21 บัญชี
โดยจะอ้างว่าเป็นการชำระค่าทำเนียม ค่าวิเคราะห์ ค่าแพลตฟอร์ม ค่าวางเงินสำรองปลดล็อคบัญชี หากไม่ชำระจะถูกรีเซ็ตระบบ ทำให้ผู้เสียหายต้องโอนเงินเพิ่มไปเรื่อยๆ ตั้งแต่หลักแสนจนถึงหลักล้านบาท แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถถอนเงินออกมาได้ และยังถูกอ้างว่าระบบล็อกบัญชีไปแล้ว เนื่องจากมีคนพยายามแฮ็ก สุดท้ายผู้เสียหายจับพิรุธได้ จึงเชื่อว่าถูกหลอก รวมมูลค่าความเสียหายทั้งสิ้น 26,679,568 บาท
จากการสืบสวนของทางเจ้าหน้าที่พบว่ามีผู้ต้องหาเกี่ยวข้องรวม 18 ราย โดยได้แจ้งข้อกล่าวหากรรมการผู้จัดการบริษัท และได้ออกหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทนิติบุคคลแล้วทั้งสิ้น 18 ราย จาก 20 บริษัท ซึ่งอยู่ระหว่างการติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่เหลือมาดำเนินคดีต่อไป
ฝากไปยังพี่น้องประชาชน เมื่อมีความจำเป็นจะต้องทำธุรกรรมทางออนไลน์ ถึงแม้จะมีการส่งบัญชีในรูปแบบบริษัทมาให้ ก็ขอให้ตรวจสอบให้ดี โดยตรวจสอบข้อมูลของบริษัทที่จะทำธุรกิจจากหน่วยงานรัฐ อย่าไปหาข้อมูลเองจากโซเชียล ซึ่งอาจถูกหลอกซ้ำ