วันที่ 21 สิงหาคม 2568 ที่อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ (อาคาร A) สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้เปิดการไต่สวนพยานบุคคลในคดีที่ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องจากสมาชิกวุฒิสภา 36 คน ให้ศาลวินิจฉัยว่า ความเป็นรัฐมนตรีของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม สิ้นสุดลงเฉพาะตัวหรือไม่
คำร้องดังกล่าวยื่นต่อศาลตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 โดยมีประเด็นสำคัญเกี่ยวกับการกล่าวหาว่า น.ส.แพทองธาร อาจขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามในการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ตามมาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) จากกรณีคลิปเสียงบทสนทนากับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ซึ่งถูกตั้งข้อสังเกตว่าอาจละเมิดมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง และขาดความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์
ในวันนี้ ศาลนัดไต่สวนพยานบุคคลจำนวน 2 ปาก
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)

ศาลอนุญาตให้ผู้เข้าร่วมฟังการไต่สวนได้ในลักษณะรายบุคคล ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พร้อมติดตั้งโทรทัศน์วงจรปิดเพื่อถ่ายทอดภาพและเสียงเฉพาะช่วงเปิดและปิดการพิจารณาเท่านั้น ส่วนช่วงการไต่สวนพยาน จะไม่มีการถ่ายทอดภาพและเสียง มีเพียงภาพนิ่งของศาลขึ้นแสดงแบบไม่มีเสียง
บรรยากาศตั้งแต่ช่วงเช้า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งรั้วเหล็กบริเวณโถงกลางอาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ เพื่อแบ่งพื้นที่และรักษาความเรียบร้อย โดยมีสื่อมวลชนจากหลายสำนักเดินทางมาเกาะติดรายงานสถานการณ์ ขณะที่กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 ประจำการในพื้นที่ โดยมีรายงานว่ากำลังตำรวจสนับสนุนมีประมาณ 1 กองร้อย
เบื้องต้นคาดว่า น.ส.แพทองธาร จะเดินทางมาถึงศาลรัฐธรรมนูญเวลา 10.00 น. ก่อนจะเข้าสู่กระบวนการไต่สวนในเวลา 10.30 น.
หลังจากการไต่สวนในวันนี้ ขั้นตอนถัดไปคือการเปิดโอกาสให้คู่ความทั้งสองฝ่ายแถลงปิดคดีเป็นลายลักษณ์อักษร ภายในวันที่ 27 สิงหาคม หากไม่มีการยื่น ถือว่าไม่ติดใจยื่นแถลงปิด
จากนั้น ศาลได้นัดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ และลงมติในวันศุกร์ที่ 29 สิงหาคม เวลา 09.30 น. และจะมีการอ่านคำวินิจฉัยในวันเดียวกัน เวลา 15.00 น. ณ ห้องพิจารณาคดี ชั้น 3 ศาลรัฐธรรมนูญ