เกิดเหตุการณ์ที่ร้านทองแห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี เมื่อมีชายคนหนึ่งพยายามก่อเหตุลักแหวนทองเพื่อหวังจะกลับไปติดคุกเพื่อพักใจจากปัญหาชีวิต แต่สุดท้ายเจ้าของร้านทองไม่ติดใจเอาความ ตำรวจจึงแจ้งเพียงข้อหาเสพยาเสพติด และส่งตัวเข้ารับการบำบัดรักษา
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุจากร้านทองในศูนย์การค้าแห่งหนึ่งว่ามีชายคนหนึ่งทำทีเข้ามาเลือกซื้อแหวนทอง ก่อนจะสวมใส่และพยายามเดินหนีออกจากร้าน แต่ถูกพนักงานและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยควบคุมตัวไว้ได้ก่อน กล้องวงจรปิดของร้านสามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ได้อย่างชัดเจน
จากการสอบสวนชายผู้ก่อเหตุ อายุ 30 ปี ให้การว่า ตนเองก่อเหตุเพราะอยากติดคุก เนื่องจากเบื่อหน่ายกับปัญหาชีวิตและรู้สึกน้อยใจที่แม่ไม่ยอมยกที่ดิน 6 ไร่ให้ ทั้งที่ตนเป็นลูกชายคนเดียว ประกอบกับมีหนี้สินและรู้สึกว่าตัวเองทำอะไรไม่สำเร็จสักอย่าง จึงคิดอยากกลับเข้าไปพักผ่อนในคุกเหมือนครั้งก่อนที่เคยติดคุกในข้อหาลักทรัพย์มาแล้ว อย่างไรก็ตาม ชายคนดังกล่าวได้กล่าวขอโทษแม่และภรรยาที่ต้องทำแบบนี้ พร้อมยอมรับว่าตนเองเสพยาบ้าเป็นประจำ
ขณะเดียวกัน ภรรยาของชายคนดังกล่าวได้อุ้มลูกสาววัย 3 ขวบเดินทางมาที่โรงพักและขอให้สามีเห็นแก่ลูก ซึ่งสามีก็รับปากว่าจะไม่ทำแบบนี้อีกและจะเลิกเหล้าเลิกยา ภรรยาให้การเพิ่มเติมว่า สามีมักจะบ่นเรื่องความเครียดเพราะต้องทำงานคนเดียวและมีอาการหวาดระแวงคล้ายคนหลอน ซึ่งตนเองเพิ่งจะมาทราบในภายหลังว่าสาเหตุมาจากอาการหลอนจากยาเสพติด โดยก่อนเกิดเหตุสามีก็บ่นว่าจะไปปล้นทอง แต่คิดว่าพูดเล่นจึงไม่ได้ห้าม จนกระทั่งได้รับโทรศัพท์จากตำรวจจึงตกใจ
จากพฤติการณ์ของผู้ต้องหาที่ไม่ได้มีเจตนาเอาทรัพย์สินไปจริง ทางตำรวจจึงไม่ได้ดำเนินคดีในข้อหาลักทรัพย์หรือวิ่งราวทรัพย์ตามที่ผู้เสียหายไม่ติดใจเอาความ แต่ตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหามีสารเสพติดในร่างกายจึงแจ้งข้อหาเสพยาเสพติด พร้อมทำประวัติและส่งตัวเข้าบำบัดรักษาตามกระบวนการ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ขึ้นอีกในอนาคต
