วันที่ 9 กันยายน 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด เปิดปฏิบัติการ EP.3 เพื่อขยายผลการทลายเครือข่ายยาเสียสาวที่เชื่อมโยงกับบุคคลที่รู้จักในนาม “หมอแอร์” โดยมีการนำกำลังเข้าตรวจค้นตามหมายค้นจากศาลอาญาในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร สุรินทร์ ภูเก็ต และชลบุรี รวม 11 จุด สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 11 ราย แบ่งเป็นแพทย์ 9 ราย เจ้าหน้าที่เวชระเบียน 1 ราย และเจ้าของคลินิก 1 ราย

ในการปฏิบัติการครั้งนี้ หนึ่งในจุดตรวจค้น เจ้าหน้าที่ ปส.1 เข้าจับกุมแพทย์รายหนึ่งภายในอพาร์ตเมนต์ย่านซอยรางน้ำ หลังแสดงหมายจับ แพทย์รายดังกล่าวให้การยอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง โดยมีชื่อเป็นแพทย์ประจำคลินิกแห่งหนึ่งในย่านห้วยขวาง และเป็นผู้สั่งยาจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) อย่างไรก็ตาม แพทย์รายนี้ไม่ได้ปฏิบัติงานที่คลินิกจริง เพียงให้แขวนป้ายชื่อแลกกับค่าจ้างเดือนละ 20,000 บาท
จากการตรวจสอบคลินิกที่แพทย์ระบุ พบว่าเป็นเพียงร้านสัก ไม่ได้เปิดให้บริการทางการแพทย์ อีกทั้งแพทย์ที่ถูกจับกุมยังเป็นอายุรแพทย์ ไม่ใช่จิตแพทย์ตามที่มีการแอบอ้างไว้

อีกจุดหนึ่ง เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นหอพักภายในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง และจับกุมแพทย์ชายอีกหนึ่งรายขณะเพิ่งออกเวรดูแลผู้ป่วย แพทย์รายนี้ให้การว่า รู้จักกับหมอแอร์ และถูกชักชวนให้ใช้ชื่อเป็นแพทย์ประจำคลินิก แลกกับค่าจ้างเดือนละ 20,000 บาท โดยยอมรับว่ามีชื่ออยู่ในรายการสั่งยา แต่ยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิด และระบุว่าลายเซ็นในเอกสารมีการปลอมแปลงโดยหมอแอร์
พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์ รองผู้บังคับการ ปส.1 เปิดเผยว่า ปฏิบัติการครั้งนี้สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 11 ราย จากพฤติกรรมร่วมกันใช้ชื่อคลินิกและเวชระเบียนในการสั่งยาจาก อย. โดยไม่นำไปใช้รักษาตามวัตถุประสงค์ แต่มีการนำยาออกจำหน่าย ซึ่งเข้าข่ายความผิดฐานสมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดประเภท 2 และสนับสนุนให้เกิดการแพร่ระบาดของยาเสพติด
ทั้งนี้ ตั้งแต่การเปิดปฏิบัติการ EP.1 เป็นต้นมา เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติดสามารถจับกุมผู้ต้องหาไปแล้ว 12 ราย รวมถึงหมอแอร์ และได้ส่งสำนวนให้อัยการฝ่ายคดียาเสพติดดำเนินการสั่งฟ้องแล้ว โดยผู้ต้องหาทั้งหมดยังคงให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
ตำรวจอยู่ระหว่างขยายผลเพิ่มเติม และคาดว่าจะมีการดำเนินการในเฟสถัดไปคือ ปฏิบัติการ EP.4 ต่อเนื่องในเร็ว ๆ นี้