NASA เผย “ภาพแปลก” จากอวกาศ ทำเอานักวิทย์ตะลึง! พบดาวเคราะห์กำลัง “วิ่งไล่ตาม” ชั้นบรรยากาศตัวเอง
กล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เวบบ์ (James Webb) ของ NASA ส่งภาพสุดระทึกกลับมายังโลก เป็นภาพเหตุการณ์ในอวกาศที่ทำเอานักดาราศาสตร์ทั่วโลกต้องตกตะลึง เมื่อพบดาวเคราะห์นอกระบบดวงหนึ่งกำลังเกิดปรากฏการณ์ “ระเหย” ในแบบที่ไม่เคยมีใครคาดคิดมาก่อน
ภาพที่ “ประหลาดที่สุด” เท่าที่เคยบันทึกได้
ภาพนี้ถูกตีพิมพ์ในงานวิจัยวารสาร Nature Astronomy เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม ที่ผ่านมา โดยวงการวิทยาศาสตร์ต่างยกให้เป็นหนึ่งในภาพที่ “แปลกประหลาดที่สุด” จากกล้องเจมส์ เวบบ์ พระเอกในภาพคือดาวเคราะห์นอกระบบชื่อ WASP-107b
เจ้าดาวดวงนี้ได้รับฉายาว่า “Super-puff” หรือดาวเคราะห์ขนมสายไหม เนื่องจากมีขนาดตัวที่ใหญ่โตแต่กลับมีมวลเบาหวิว แต่สิ่งที่ทำให้โลกตะลึงไม่ใช่แค่ความเบา แต่คือการค้นพบ “เสาก๊าซฮีเลียมขนาดยักษ์” ที่กำลังระเหยพุ่งออกมาจากตัวดาว มีความยาวกว่าเส้นผ่านศูนย์กลางของดาวถึง 5 เท่า!
ปรากฏการณ์เหนือจริง: ดาววิ่งไล่ตามลมหายใจตัวเอง
ความพีคของเรื่องนี้คือ ทิศทางของก๊าซที่พุ่งออกมา ปกติแล้วเรามักเข้าใจว่าก๊าซควรจะลอยตามหลังเหมือน “หางดาวหาง” แต่ภาพจากเจมส์ เวบบ์ กลับโชว์ให้เห็นว่า กลุ่มก๊าซฮีเลียมนี้กลับลอย “นำหน้า” ตัวดาวเคราะห์ไปไกลถึง 1.5 ชั่วโมงในวงโคจร
เว็บไซต์ LiveScience เปรียบเทียบปรากฏการณ์สุดเซอร์เรียลนี้ว่า มันเหมือนกับ “ดาวเคราะห์กำลังวิ่งไล่ตามชั้นบรรยากาศของตัวเอง” ซึ่งมหาวิทยาลัยชิคาโกยืนยันว่า นี่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่มนุษย์ได้เห็นดาวเคราะห์สร้าง “หางฮีเลียม” ที่ใหญ่จนหลุดออกมาเป็นสายแยกต่างหากกลางอวกาศชัดเจนขนาดนี้
ร้อนจน “ระเหย”
สาเหตุของเรื่องนี้เกิดจาก WASP-107b โคจรอยู่ใกล้ดาวฤกษ์แม่มากเกินไป (ใกล้กว่าระยะพุธ-อาทิตย์ถึง 7 เท่า) ความร้อนมหาศาลทำให้โมเลกุลก๊าซในชั้นบรรยากาศขยายตัวอย่างรุนแรง ในขณะที่แรงโน้มถ่วงอันน้อยนิดของดาวไม่สามารถรั้งก๊าซไว้ได้
ผลก็คือ ฮีเลียม ซึ่งเป็นธาตุที่เบาที่สุดจึงหลุดลอยออกไปเป็นลำดับแรก ก่อให้เกิดภาพเสาก๊าซยักษ์ที่เจมส์ เวบบ์ จับภาพได้ นอกจากนี้ยังตรวจพบ น้ำ, คาร์บอนมอนอกไซด์, คาร์บอนไดออกไซด์ และแอมโมเนีย แต่สิ่งที่น่าแปลกคือ “ก๊าซมีเทน” ที่ควรจะมีกลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย
NASA ชี้: กุญแจไขปริศนา “ความตายของชั้นบรรยากาศ”
NASA มองว่าภาพนี้คือเบาะแสสำคัญที่จะช่วยให้เราเข้าใจกระบวนการ “Atmospheric Death” หรือการสูญเสียชั้นบรรยากาศของดาวเคราะห์ ซึ่งอาจเป็นกลไกเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นกับดาวศุกร์เมื่อหลายพันล้านปีก่อน จนทำให้น้ำแห้งเหือดไป
การค้นพบนี้ยืนยันว่า ดาวเคราะห์ในจักรวาลไม่ได้อยู่นิ่งเฉย พวกมันเปลี่ยนแปลงรูปร่าง โครงสร้าง และสามารถ “ระเหย” หายไปได้ต่อหน้าต่อตาหากเข้าใกล้ดาวฤกษ์มากเกินไป ทุกภาพจากเจมส์ เวบบ์ จึงเหมือนการพามนุษยชาติก้าวเข้าไปเห็นความมหัศจรรย์ของจักรวาลที่ซ่อนอยู่
ถ้า “นีล อาร์มสตรอง” เป็นมนุษย์คนแรกที่เหยียบดวงจันทร์ แล้วใครเป็นคนถ่ายภาพนี้ให้? คลิป “ชำแหละเอเลี่ยน” 30 ปีก่อน เป็นกระแสร้อนอีกครั้ง หลังสหรัฐฯ จ่อเปิดเอกสารลับ! “ใบหน้าบนดาวอังคาร” ภาพถ่ายสะพรึงปี 1976 ต้นกำเนิดทฤษฎีลี้ลับ NASA ก็ยังตอบไม่ขาด! 4+ดูภาพทั้งหมด
