แนวโน้มราคาทอง 14 ต.ค. 68.!!

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำ ฮั่วเซ่งเฮง รายงาน ภาพการเคลื่อนไหวที่ผ่านมา ทองโลกได้มีการปรับตัวขึ้น จากการที่ภาวะชัตดาวน์สหรัฐฯ ยังไม่มีสัญญาณบ่งชี้ว่าพรรคเดโมแครต – รีพับลิกันจะสามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับการผ่านร่างงบประมาณชั่วคราว ในขณะที่นาย Michael Hartnett นักยุทธศาสตร์ของ Bank of America (BoFA) คาดการณ์ว่า ราคาทองคำจะแตะ 6,000 ดอลลาร์ ในปีหน้า เนื่องจากสัดส่วนการลงทุนในทองคำที่นักลงทุนหรือสถาบันต่าง ๆ ถือครองอยู่มีน้อยเกินไป เมื่อเทียบกับสินทรัพย์ประเภทอื่น ๆ ในพอร์ตโฟลิโอ และประธานเฟดคนใหม่ที่เอื้อนโยบายการเงินผ่อนคลายที่อาจก่อให้เกิดฟองสบู่

อย่างไรก็ตาม ดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ได้ปรับตัวขึ้นอีกครั้ง สู่ระดับ 99.24 หน่วย จาก 98.94 หน่วย สืบเนื่องมาจากเงินเยนและยูโรอ่อนค่า และนายสก็อตต์ เบสเซนต์ รมว.คลังสหรัฐฯ เปิดเผยว่า มาตรการภาษี 100% ที่ปธน.ทรัมป์ประกาศจะเรียกเก็บจากจีนในวันจันทร์นั้น อาจไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้น และเจ้าหน้าที่จีน-สหรัฐฯ จะมีการหารือกันที่กรุงวอชิงตันในสัปดาห์นี้ รวมถึงยังคงมีกำหนดการพบกับปธน.สี จิ้นผิง – ปธน.ทรัมป์ ที่ APEC ณ เกาหลีใต้ในวันที่ 31 ต.ค. -1 พ.ย. ทางด้านกองทุน SPDR ซื้อทองคำ 1.72 ตัน รวมสุทธิ 1,018.88 ตัน

ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม

วันนี้ไม่มีการประกาศตัวเลขทางเศรษฐกิจ

วิเคราะห์ราคาทอง

ทองโลกอยู่ในระยะขาขึ้นต่อเนื่อง แต่ในระยะสั้นมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นสอบแนวต้านที่ 4,160 ดอลลาร์ และมีการปรับตัวลงในภายหลัง จึงประเมินว่า ทองโลกอาจย่อตัวลงทดสอบแนวรับที่ 4,115 ดอลลาร์ ก่อนกลับตัวเป็นขาขึ้นต่อ แต่หากทองโลกหลุดแนวรับถัดไปที่ 4,100 ดอลลาร์ ทองโลกอาจเข้าสู่การปรับฐานลงระยะสั้น

ราคาทองคำโลก

แนวรับ : 4,115 และ 4,100 ดอลลาร์

แนวต้าน : 4,160 และ 4,175 ดอลลาร์

ทองโลกอยู่ในระยะขาขึ้น แต่ระยะสั้นยังไม่แนะนำซื้อจึงแนะนำใช้กลยุทธ์ย่อเก็บสะสมจากแนวรับที่ระดับ 4,115 ดอลลาร์ และขายทำกำไรหากราคาขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 4,160 ดอลลาร์ แต่หากราคาหลุดแนวรับที่ 4,100 ดอลลาร์ แนะนำขายตัดขาดทุนไปก่อน ราคาทองคำแท่ง 96.5%

แนวรับ : 63,450 และ 63,250 บาท

แนวต้าน : 64,050 และ 64,250 บาท

ราคาทองในประเทศอยู่ในระยะขาขึ้นตามทองโลก ในขณะที่ค่าเงินบาทแข็งค่าจึงแนะนำทยอยซื้อสะสมตามแนวรับที่ระดับ 63,450 และขายทำกำไรตามแนวต้านที่ 64,050 บาท แต่หากราคาหลุดแนวรับที่ 63,250 บาท แนะนำขายตัดขาดทุน

Scroll to Top