ไม่รู้ผิดกฎหมาย! สาวแค่ซื้อ “คอตตอนบัด” ผ่านเว็บฯ ช็อก ตร.บุกบ้าน จับขัง-ปรับ 200 เท่า!

ซื้อสำลีผ่านเว็บ! สาวไต้หวันเจอคดีย้อนหลัง 2 ปี ถูกจับขัง-ปรับ 2 แสน เพราะละเมิดกฎหมายแพทย์

เรื่องราวเตือนใจสำหรับสายช้อปปิ้งออนไลน์ โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มเครื่องมือแพทย์ ล่าสุดหญิงชาวไต้หวันรายหนึ่งสั่งซื้อสำลีเมื่อ 2 ปีก่อน ก่อนถูกตำรวจบุกจับถึงบ้าน พร้อมโดนปรับกว่า 200 เท่าจากราคาที่ซื้อ!

จากรายงานของสื่อไต้หวัน CTV News เผยว่า หญิงไต้หวันรายหนึ่งได้สั่งซื้อ สำลีพันก้าน (cotton swabs) จำนวน 20 แพ็ก จากแพลตฟอร์ม Taobao ประเทศจีน ในราคาประมาณ 500 ดอลลาร์ไต้หวัน (ราว 600 บาทไทย) เพื่อใช้เองภายในบ้าน

แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดคือ เวลาผ่านไปกว่า 2 ปี วันหนึ่งในช่วงเช้า เธอเตรียมจะออกจากบ้าน กลับพบว่าตำรวจมารออยู่หน้าประตู พร้อมแสดงหมายจับ และพาตัวไปขังไว้ในสถานควบคุมตัวข้ามคืน!

โทษหนักเพราะละเมิดกฎหมายเครื่องมือแพทย์

แม้สินค้าดังกล่าวถูกเจ้าหน้าที่ศุลกากรทำลายตั้งแต่ตอนนำเข้ามา แต่เรื่องไม่จบเพียงแค่นั้น เพราะการนำเข้า “อุปกรณ์ทางการแพทย์” โดยไม่ขออนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุข ถือว่าผิดกฎหมาย

หญิงคนดังกล่าวยืนยันว่าไม่ทราบว่าผิดกฎหมาย และเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนานแล้ว แต่สุดท้ายเธอก็ถูกปรับเป็นเงินกว่า 100,000 ดอลลาร์ไต้หวัน (ประมาณ 115,000 บาท) ซึ่งมากกว่าราคาสินค้าที่ซื้อถึง 200 เท่า

ระวัง! รายการสินค้าต้องห้ามและมีจำกัด

ตามกฎหมายของไต้หวัน “กฎหมายควบคุมอุปกรณ์ทางการแพทย์” ระบุว่า การนำเข้าอุปกรณ์ทางการแพทย์ต้องผ่านการอนุมัติจากหน่วยงานรัฐก่อน หากฝ่าฝืน อาจถูกลงโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 10 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน

กรมศุลกากรและกระทรวงการคลังของไต้หวันเคยออกประกาศเตือนว่า หากจะนำเข้าอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อใช้ส่วนตัว เช่น สำลี, ถุงยาง, หน้ากากแพทย์ หรือคอนแทคเลนส์แบบรายวัน ต้องอยู่ในปริมาณจำกัด และต้องไม่เกิน 1 ครั้งต่อคนภายในระยะเวลา 6 เดือน

รายการสินค้าที่อนุญาตให้นำเข้าแบบไม่ต้องขออนุญาต

  • สำลีพันก้าน: ไม่เกิน 200 ชิ้น
  • ถุงยางอนามัย: ไม่เกิน 60 ชิ้น
  • หน้ากากแพทย์: ไม่เกิน 250 ชิ้น
  • คอนแทคเลนส์รายวัน: ไม่เกิน 60 ชิ้น (จำกัดแบรนด์ และค่าสายตาไม่เกิน 2 ระดับ)
  • แผ่นแปะยา/พลาสเตอร์ยา: ไม่เกิน 4 หลอด/ขวด

หากเกินจากจำนวนดังกล่าว จะถือว่าเป็นการนำเข้าเชิงพาณิชย์ และต้องมีใบอนุญาตประกอบการนำเข้าอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

บทสรุป: ช้อปต่างประเทศ อย่าชะล่าใจ

เหตุการณ์นี้กลายเป็นอุทาหรณ์สำคัญสำหรับสายช้อปออนไลน์จากต่างประเทศ โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มสุขภาพและการแพทย์ ซึ่งแม้ดูเหมือนไม่อันตราย แต่กลับมีข้อจำกัดทางกฎหมายที่เข้มงวด

ก่อนตัดสินใจซื้อสินค้าแบบนี้ ควรศึกษาข้อมูลจากเว็บไซต์ของสำนักงานอาหารและยา (FDA) หรือหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้องในประเทศนั้นๆ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาทางกฎหมายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

Scroll to Top