จากกรณี พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ได้ประกาศหยุดให้บริการผู้ป่วยสิทธิบัตรทอง ตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค.2568 เป็นต้นไป เนื่องจาก สปสช. ไม่ชำระหนี้ค่ารักษาพยาบาลข้ามหลายปีงบประมาณจนมียอดสะสมมากกว่า 100 ล้านบาทแล้ว ในวันที่ 7 ต.ค. 2568 ที่ผ่านมานั้น
ต่อมาในวันที่ 8 ต.ค. ได้เดินทางไปที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เพื่อทวงถามกรณีการจ่ายค่าบริการดูแลรักษาผู้ป่วยสิทธิ์หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง 30 บาท) หลังจากที่ทราบว่า ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสปสช.จะมีการแถลงข่าวชี้แจง กรณีของโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ทำให้การแถลงข่าวดังกล่าวต้องยกเลิกไป
ล่าสุดวันนี้ (9 ต.ค.68) พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา หรือหมอเหรียญทอง ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เหรียญทอง แน่นหนา โดยระบุว่า สปสช. จะใช้วิธีการให้สัมภาณ์ฝ่ายเดียวและพูดข้อมูลเสี้ยวเดียว ไม่พูดครบถ้วน เพื่อให้สาธาธารณะรับฟังข้อมูลไปในทิศทางตามที่ สปสช. ต้องการสื่อเสมอ
เมื่อวันที่ 8 ต.ค.68 ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการ สปสช. เชิญนักข่าวฟังการแถลงกรณีหนี้ค้างจ่าย รพ.มงกุฎวัฒนะข้ามปีงบประมาณมากกว่า 100 ล้านบาท ผมก็ประกาศขอไปร่วมฟังด้วยและจะขอถาม สปสช. เช่นเดียวกับนักข่าวเพื่อให้นักข่าวได้สื่อข้อเท็จจริง 2 ด้านต่อสาธารณะ
แต่เมื่อ ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการ สปสช. ทราบว่าผมจะไปร่วมรับฟังด้วย ก็ยกเลิกการแถลงกะทันหัน นักข่าวและผมก็ไปเก้อ ผมจึงตอบคำถามนักข่าวฝ่ายเดียว แต่เมื่อผมกลับไปแล้ว ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ ก็ให้สัมภาษณ์ฝ่ายเดียวตามสไตล์ พูดฝ่ายเดียวบิดเบื่อนสังคม ต่อสื่อมวลชนมีสาระโดยสรุปว่า สปสช ค้างหนี้เกิน 100 ล้านบาทไม่เป็นความจริง สปสช ค้างหนี้แค่ 37 ล้านบาท
สปสช. ฟ้องหมิ่นประมาทผมสิครับ ผมจะได้ขอให้ศาลมีคำสั่งเรียกข้อมูลภายในของ สปสช. มาพิสูจน์กัน หนี้แค่ 37 ล้านบาทตามที่ ทพ.อรรถพร ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนนั้น เป็นหนี้เพียงบางส่วนของเดือน ส.ค.68 เท่านั้นนะครับ
หนี้รายการอื่น ๆ ในเดือน ส.ค.68 ยังมีอีกหลายล้านบาท หนี้ค้างจ่ายเดือน ก.ค.68 อีกมากกว่า 20 ล้านบาท หนี้ค้างจ่ายกรณี OP REFER ระหว่าง 1 มี.ค.67 – 30 ก.ย.67 อีกมากกว่า 40 ล้านบาท หนี้ค้างจ่ายกรณี OP REFER ระหว่าง ก.ค.63 – 30 ก.ย.63 อีกมากกว่า 10 ล้านบาท หนี้ในเดือน ก.ย.68 ที่ผ่านมายังไม่ทราบตัวเลขที่แน่ชัดอีกหลายสิบล้านบาท
ทำไม ทพ.อรรถพร ไม่พูดให้หมด ทำไมไม่กล้าพูดต่อหน้าผม มันเกิน 100 ล้านบาทไปแล้ว แต่ก็ยังให้สัมภาษณ์ข้อมูลหนี้เพียงบางส่วนของเดือน ส.ค.68 เดือนเดียว ไม่พูดหนี้ที่แท้จริงทั้งหมดล่ะครับ
วันเดียวกันที่ 8 ต.ค.68 นาย นิมิตร์ เทียนอุดม กรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) ก็ให้สัมภาษณ์สื่อมติชนต่อจาก ทพ.อรรถพร ว่า สำหรับผู้ป่วยนอกที่รีเฟอร์ (ส่งต่อ) มา ก็จะมีกลไกกำหนดไว้ว่า หน่วยบริการแรกจะต้องจ่ายตั้งแต่บาทที่เท่าไร แล้วตั้งแต่บาทที่เท่าไร ที่ทางระบบหลักประกันจะต้องเป็นผู้จ่าย
ดังนั้น ต้องดูข้อเท็จจริง เพราะไม่ใช่ว่าระบบส่วนกลางจะเป็นคนค้าง ในส่วนนี้ ทาง รพ.มงกุฎวัฒนะ จะต้องให้รายละเอียดเพิ่มเติมด้วย ว่า ที่ค้างชำระอยู่นั้น ใครเป็นผู้ค้างชำระ ถ้าหากเป็นการค้างชำระจากคลินิก ก็ต้องมาดูว่า ที่เขาไม่จ่ายเพราะอะไร อาจจะเป็นเพราะเรตเกิน หรือทางคลินิกเองก็ถูกหักเยอะ ทำให้รายรับไม่พอกับรายจ่าย ดังนั้น เรื่องนี้ไม่ใช่ว่าระบบไม่มีงบประมาณ แต่ต้องมาดูว่าใครเป็นคนค้างจ่าย นายนิมิตร์ กล่าว
ผมขอตอบการให้สัมภาษณ์ของนาย นิมิตร์ กรรมการบอร์ด สปสช. ว่า ตามที่ นาย นิมิตร์ ให้สัมภาษณ์ว่า หน่วยบริการแรกจะต้องจ่ายตั้งแต่บาทที่เท่าไร แล้วตั้งแต่บาทที่เท่าไร ที่ทางระบบหลักประกันจะต้องเป็นผู้จ่ายนั้น ผมขอเรียนให้ทราบว่า ทั้งหน่วยบริการแรกและระบบหลักประกันไม่จ่ายเลยแม้แต่สตางค์แดงเดียว ไม่ว่าจะบาทที่เท่าไหร่ถึงบาทที่เท่าไหร่ ไม่ว่าจะเรตไม่เกินก็ไม่จ่ายเลยแม้แต่สตางค์แดงเดียวนะครับ นาย นิมิตร์ รู้ไว้ด้วย อย่ามั่ว อย่าร่วมกับ ทพ.อรรถพร บิดเบือน นี่แหละครับ คนที่เป็นกรรมการบอร์ด สปสช.