หดหู่! ดญ.วัย 14 เข้ารร. ไปแก้เกรดช่วงปิดเทอม กลับถูก รปภ. ล่วงละเมิด หวังขืนใจ แถมยังถูกเพื่อนโพสต์ใส่ร้ายว่าเป็น HIV เครียดหนัก เลือกซดน้ำยาล้างห้องน้ำ.!!

เมื่อวันที่ 8 ต.ค. 2568 ที่ผ่านมา นางเอ (นามสมมุติ) อายุ 43 ปี เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี แจ้งว่า ด.ญ.บี (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี นักเรียนชั้นม.2 โรงเรียนแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ถูกชายอายุประมาณ 40 ปี ซึ่งเป็น รปภ.ของโรงเรียน ล่วงละเมิดทางเพศ และพยายามข่มขืนในป้อมยามหน้าโรงเรียน เหตุเกิดวันที่ 27 ก.ย.68 ที่ผ่านมา แถมลูกยังถูกเพื่อนบูลลี่ โพสต์ใส่ร้ายเป็นโรคร้ายแรงจนเครียดคิดสั้นกินน้ำยาล้างห้องน้ำ ยังดียายช่วยไว้ทัน ส่งรพ.นอนรักษาตัวในห้อง ICU ถึง 6 คืน

นางเอ กล่าวว่า วันเกิดเหตุ 27 ก.ย.68 ช่วงประมาณ 8 โมงเช้า โรงเรียนปิดเทอมแล้ว แต่ลูกให้แม่ไปส่งที่โรงเรียน เพื่อจะไปพบครูขอแก้เกรดแล้วแม่ก็กลับ เมื่อไปถึงที่ป้อมยามหน้าโรงเรียน ลูกโทรหาครู แต่ครูไม่ได้มาโรงเรียน ลูกจึงเรียกรถผ่านแอปให้ไปรับกลับบ้าน ระหว่างที่รอรถ รปภ.เรียกให้ลูกเข้าไปนั่งในป้อมก่อน ลูกจึงเดินเข้าไปขอเข้าห้องน้ำ หลังเดินออกจากห้องน้ำ รปภ.คนดังกล่าวได้เดินเข้ามากอดข้างหลังแล้วล็อกตัวลงนั่งบนเก้าอี้ พร้อมกับจับหน้าอก จับอวัยวะเพศ และพยายามล้วงเข้าไปในเสื้อและกางเกงที่เป็นชุดพละ ซึ่งลูกก็ดิ้นรนขัดขืนต่อสู้จนหลุดออกมาได้ แล้วรีบหยิบกระเป๋าวิ่งหนีออกจากป้อมยาม โดยรปภ.ได้วิ่งไล่ตามมา แต่ลูกบอกว่าอย่านะ และด้านนอกป้อมยามมีกล้องวงจรปิด รปภ.จึงหยุดกลับเข้าไปในป้อม

หลังกลับบ้านมา ลูกก็มีอาการเซื่องซึมไม่พูดจา ไม่กินข้าว จนเช้าวันที่ 28 ก.ย.68 ลูกได้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ยายฟัง จนพ่อกับแม่รู้เรื่องและได้โทรไปสอบถามครูประจำชั้น เพื่อให้ตรวจสอบเพราะเป็นวันอาทิตย์ และตั้งใจจะเดินทางไปที่โรงเรียนในวันจันทร์ แต่ลูกสาวเครียดมากที่ถูก รปภ. กระทำ และที่ผ่านมาก็ถูกเพื่อนบูลลี่ เพื่อนเอารูปลูกไปโพสต์ในโซเชียลและเขียนข้อความให้เสียหาย บอกว่าลูกติดเชื้อ HIV และติดเชื้อหนองใน ทำให้ลูกสาวเครียดจัด เช้าจันทร์ที่ 29 ก.ย. 68 ขณะที่อยู่ที่บ้านลูกเข้าไปในห้องน้ำแล้วกินน้ำยาล้างห้องน้ำเข้าไปพยายามจะจบชีวิตตัวเอง

ซึ่งตอนนั้นพ่อกับแม่ออกไปข้างนอก เตรียมจะเดินทางไปโรงเรียนเพื่อติดตามเรื่องที่ลูกถูก รปภ.กระทำกับครูประจำชั้นและผอ.โรงเรียน จู่ๆ ยายโทรมาบอกแทบช็อก และยายกับเพื่อนบ้านก็เรียกรถพยาบาลมารับลูกสาวส่งโรงพยาบาล ต้องเข้ารักษาตัวในห้อง ICU ถึง 6 คืนกว่าจะพ้นขีดอันตราย แม่ต้องการเรียกร้องความเป็นธรรมให้ลูก และเอาเรื่อง รปภ.ที่ก่อเหตุให้ถึงที่สุด อีกทั้งอยากให้ทางโรงเรียนได้รับรู้แก้ปัญหา ทั้งในการคัดเลือกบุคลากรมาทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัยในโรงเรียน แต่กลับมาก่อเหตุกับเด็กนักเรียนเสียเอง และหามาตรการไม่ให้เกิดเหตุกับเด็กคนอื่นๆ อีก นอกจากนี้ขอให้ทางโรงเรียนตรวจสอบเรื่องการบูลลี่กันระหว่างเด็กนักเรียนซึ่งถือว่าเป็นปัญหาใหญ่ทำร้ายจิตใจเด็กมาก ที่ผ่านมาลูกได้บอกครูแต่กลับไม่ได้รับการช่วยเหลือ แม่จึงขอให้มูลนิธิปวีณาฯ ช่วยเหลือด้วย

หลังรับเรื่อง นางปวีณา ประสาน พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว ให้แม่เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ รปภ.ที่ก่อเหตุแล้วเมื่อวันที่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุดทางโรงเรียนได้ไล่ รปภ.ออกแล้ว และตร.ได้นำตัว รปภ. มาสอบสวนให้การรับสารภาพ ส่งดำเนินคดีตามกฏหมาย โดยวันนี้ได้เชิญ ดร.ธีร์ ภวังคนันท์ อดีตรองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (อดีตรองเลขาธิการ กพฐ.) นางภัทริยาวรรณ พันธุ์น้อย รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (รองเลขาธิการ กพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการ และ พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว มาร่วมประชุมกันที่มูลนิธิปวีณาฯ เพื่อให้การช่วยเหลือ ซึ่งมีแม่ของเด็กหญิงผู้เสียหายร่วมประชุมด้วย ซึ่งเด็กต้องการจะย้ายโรงเรียน ทั้งนี้ จะมีการบูรณาการช่วยเหลือและหามาตรการในการป้องกันเหตุร้ายในโรงเรียนอย่างเป็นรูปธรรม โดยมูลนิธิปวีณาฯ จะติดตามการช่วยเหลือเด็กหญิง ม.2 รายนี้ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ รวมทั้งเรื่องการฟื้นฟูสภาพจิตใจ การย้ายสถานศึกษา และติดตามคดีร่วมกับ พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว เพื่อให้ความเป็นธรรมต่อไป

ผู้สื่อข่าวจังหวัดปทุมธานี รายงาน

Scroll to Top